สินค้าโภคภัณฑ์สัปดาห์นี้: เมื่อสหรัฐฯ ระงับเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนชั่วคราว

 | Oct 15, 2019 04:38

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ตัดสินใจระงับการเก็บภาษี “ชั่วคราว” กับจีน

จากจุดนี้ เราจะขอย้อนกลับไปในเดือนธันวาคม 2018 เพื่อดูว่าหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงตกลงที่จะพักรบชั่วคราวเป็นเวลา 90 วันเพื่อเปิดการเจรจาครั้งใหม่นั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ก่อนหน้านั้นก็มีการเว้นช่วงการเจรจาระหว่างทั้งสองประเทศอยู่เป็นระยะๆ เช่นกัน แต่ช่วงพักในเดือนธันวาคมถือว่าเป็นช่วงที่เกิดเหตุการณ์สำคัญมากที่สุด

จีนเคยตกลงให้สัญญาในขณะนั้นว่าจะซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ “จำนวนมาก” แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ธุรกิจของจีนได้ซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ไปอย่างน้อย 1 ล้านตัน แหล่งข่าวบางแห่งรายงานว่าปริมาณการซื้อดังกล่าวอาจมากถึง 2.2 ล้านตัน

เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงเดือนเมษายน ทั้งสองประเทศก็ยังคงมีการเจรจากันอยู่ นายสตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ก็ยังเปิดเผยด้วยว่าการเจรจา “เป็นไปด้วยดี”

จากนั้นในเดือนพฤษภาคม การเจรจาก็เริ่มไม่เป็นผล

ทรัมป์ประกาศว่าทำเนียบขาวปรับขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าของจีนคิดเป็นมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญ โดยปรับเพิ่มจาก 10% เป็น 25% โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคมเป็นต้นไป ประธานาธิบดีทรัมป์ให้เหตุผลว่าการปรับขึ้นอัตราภาษีในครั้งนั้นเกิดจากการที่จีนต้องการขอ “เจรจาใหม่อีกครั้ง” กับข้อตกลงที่ได้ผ่านการพูดคุยกันไปก่อนหน้านี้แล้ว

ทำเนียบขาวยังได้ตัดสินใจประกาศห้ามไม่ให้บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนอย่างหัวเว่ยทำธุรกิจใดๆ ร่วมกับสหรัฐฯ โดยไม่รอการอนุมัติจากรัฐบาล นอกจากนั้นนายโรเบิร์ต ไลทิเซอร์ ตัวแทนผู้เจรจาจากสหรัฐฯ ยังกล่าวโทษจีนว่าไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในเรื่องการค้าผ่านระบบดิจิทัล รวมถึงเรื่องสิทธิ์ในการเข้าถึงบริการคอมพิวเตอร์ระบบคลาวด์ในจีนด้วย

ส่วนทางด้านของจีนก็ได้ประกาศว่าจะเพิ่มอัตราภาษีกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่า 6 หมื่นล้านเหรียญตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไปเช่นกัน

หลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน ทั้งสองฝ่ายต่างก็แสดงให้เห็นว่ามีการเปลี่ยนท่าทีจากเดิมไปเล็กน้อย

แล้วจู่ๆ ทำเนียบขาวก็ประกาศออกมาว่าจะเริ่มการเจรจาครั้งใหม่อีกครั้งในเดือนตุลาคม จนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทรัมป์ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าสามารถตกลงกันในข้อตกลงส่วนหนึ่งได้เรียบร้อยแล้ว

กลับมาที่เหตุการณ์ในปัจจุบัน วันจันทร์ที่ผ่านมาถือว่าเป็นวันที่ 463 ของสงครามการค้าในครั้งนี้

สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีสินค้าจากจีนเป็นมูลค่าถึง 550,000 แสนล้านเหรียญ ในขณะที่จีนก็เอาคืนด้วยการเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เป็นจำนวน 185,000 ล้านเหรียญเช่นกัน

เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่ายตั้งแต่อดีตมาถึงปัจจุบัน โอกาสในการที่จะบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้จึงยังค่อนข้างไม่แน่นอน

ทรัมป์กล่าวว่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 3-5 สัปดาห์ในการที่จะร่างข้อตกลงบางส่วนที่เจรจาสำเร็จแล้วนั้นออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งในข้อตกลงดังกล่าวนี้จะร่วมไปถึงเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา บริการทางการเงิน และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมูลค่า 4-5 หมื่นล้านเหรียญด้วย แต่ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยว่าสหรัฐฯ จะตอบแทนจีนในครั้งนี้อย่างไร เพียงแต่แจ้งว่าข้อตกลงร่วมกันในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จในช่วงแรกจากทั้งหมดสามช่วง

ถึงเวลาเข้าเสี่ยงในตลาดแล้วหรือยัง?/h3

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันในรอบสัปดาห์ปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์หลังจากที่เกิดเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดิอาราเบียในช่วงกลางเดือนกันยายนเป็นต้นมา อันเป็นผลจากการที่ทรัมป์ออกมาประกาศข่าวดีว่าสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าส่วนหนึ่งได้แล้วนั่นเอง