ราคาทองคำขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคารกลาง ราคาน้ำมันยังคงไม่แน่นอน

 | Oct 29, 2019 08:46

ราคาทองคำยังคงอยู่ในจุดที่ดูดีที่ $1500 นักลงทุนยังมั่นใจกับสิ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะแถลงในวันพุธนี้

ความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ เป็นครั้งที่ 3 จะสะท้อนให้เห็นราคาทองคำเป็นอย่างดีซึ่งสอดคล้องกับการอ่านค่าอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดบนเครื่องมือวัดค่าเฟดบน Investing.com ที่ซึ่งกองทุนของรัฐบาลกลางที่เปิดโอกาสให้มีการกำหนดจุดตัดถึง ประชุมนโยบาย ในวันที่ 30 ตุลาคม

ความคาดหวังในการลดอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ราคาทองยังแตะที่ $1500/h3

ดาวน์โหลดแอป
เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก
ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

เรามีแนวโน้มว่าจะเกิดการลดอัตราดอกเบี้ยลง แม้ว่าทีมบริหารของทรัมป์ยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ดี แทนทีทีมบริหารจะออกมาป้องสถานการณ์เศรษฐกิจ พวกเขาน่าจะลดอัตราดอกเบี้ยตามที่ธนาคารกลางวิเคราะห์ไว้ ซึ่งน่าจะเป็นการดีกว่าสิ่งที่ได้ยินมาตลอดคือการที่สหรัฐฯ จะมีอัตราการเติบโตในไตมาสที่ 2 ที่ 2% นั้นจำต้องมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างหนัก เหมือนอย่างประเทศเยอรมันที่อัตราการเติบโตประจำปีได้ชะลอตัวลงอยู่ที่ 0.4% ในไตรมาสที่2 และนั่นดูเหมือนจะอธิบายถึงราคาทองคำได้เป็นอย่างดี

หากธนาคารกลางมีเรื่องให้ต้องแปลกใจ?/h3

แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากเฟดตัดสินใจที่จะคงอัตราดอกเบี้ย ประธานเฟด เจย์ พาวเวลก็อาจจะโดนทรัมป์ทวีตด่าอีกครั้ง แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับทองคำละ?

นักลงทุนทองส่วนใหญ่จะไม่มีความมั่นใจในการลงทุนระยะกลางถึงระยะยาวเนื่องจากการตัดสินใจของเฟดนั้นอาจจะทำให้ธนาคารกลางตั้งคำถามในการประชุมการตัดสินใจเรื่องนโยบายในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้

สิ่งที่พนันได้เลย คือหากเฟดเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ ราคาทองคำจะลดลงต่ำกว่า $1500 ทันที

ในช่วงที่ราคาทองคำต่ำสุด การซื้อขายทองคำในตลาดโลก ลงไปแตะที่ $1,459.15 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ตลาดมีแนวโน้มที่จะทดสอบจุดต่ำสุดและอื่นๆ เว้นเสียแต่ว่า สถานการณ์ Brexit เกิดไม่นิ่งอีกครั้งหรือข้อตกลงการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะไม่ได้เกิดขึ้นจริง

ดีเดย์ของราคาน้ำมันในวันพุธ/h3

ราคาน้ำมันก็จะมีการตัดสินกันในวันพุธนี้ด้วย โดยมีการวิเคราะห์ข้อมูลออกมาจากทางองค์กรข้อมูลด้านพลังงานของสหรัฐฯมากกว่าทางเฟดในช่วงหกสัปดาห์ที่ผ่านมา ชุดข้อมูลรายสัปดาห์จากทางองค์กรข้อมูลด้านพลังงานของสหรัฐฯ ดูเหมือนจะมีความไม่ปกติเนื่องมาจากการกลั่นน้ำมัน หลังจากที่สต๊อกน้ำมันดิบได้ไต่ขึ้นไปถึงห้าสัปดาห์ติดต่อกัน ก็มีเรื่องให้น่าประหลาดใจที่จำนวนน้ำมันดิบBrent จบที่ 4.4% ทำสถิติสูงสุดสามสัปดาห์ที่ $62.09โดยรวมแล้วน้ำมันมีการซื้อขายที่นิ่งๆจนกว่าองค์กรข้อมูลด้านพลังงานของสหรัฐฯจะสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดเมื่อวันพุธที่ผ่านมาประกาศว่าสต๊อกน้ำมันดิบในประเทศลดลง 1.7 ล้านบาร์เรลเมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการสร้าง 2.2 ล้านบาร์เรลองค์กรข้อมูลด้านพลังงานของสหรัฐฯ ยังรายงานว่ามีปริมาณสต๊อกลดลงอย่างมากในคลังน้ำมันเช่นน้ำมันเบนซินและโรงกลั่นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราการกลั่นของโรงกลั่นลดลงสู่ระดับต่ำสุด ท่ามกลางการปิดโรงงานเพื่อปรับปรุงให้ได้มาตรฐานการแปรรูปเชื้อเพลิงทางทะเลรูปแบบใหม่

โอเปกเสนอการลดอัตราการผลิตน้ำมัน/h3

ปัจจัยอีกประการหนึ่งที่สนับสนุนราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่แล้วคือรายงานของรอยเตอร์ที่บ่งบอกถึงโอกาสในการประชุมโอเปกที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนธันวาคมโดยพิจารณาว่าจะลดอัตราการผลิตกว่า 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันที่ตกลงร่วมกันกับพันธมิตรและประเทศหลักอย่างรัสเซียเมื่อปีก่อน

อย่างไรก็ตามกว่าอีกกว่าหกสัปดาห์จะถึงจะถึงการประชุมโอเปก แต่เพียงแค่พูดถึงการลดกำลังการผลิตในจุดนี้ก็ทำให้ราคาตกต่ำลงมาก

ดังนั้นจะเห็นการทะลุแนวต้านของราคาน้ำมันในอาทิตย์นี้ไหม? หรือจะเป็นเหมือนเดิมที่น้ำมัน WTI อยู่ที่ $50-$53 ต่อบาร์เรล และ น้ำมัน Brent อยู่ที่ $55-$58 ต่อบาร์เรล?

ในสถานการณ์ตลาดที่เริ่มจะแน่น มันก็จะเริ่มวนกลับเข้าสู่ลูปเดิม

ข้อมูลเบื้องต้นตอนนี้ชี้ให้เห็นว่าท่ามกลางสงครามการค้า ปัญหา Brexit และความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยทั่วโลกตัวบ่งชี้เรียลไทม์ที่แท้จริงของอุปสงค์อุปทานของน้ำมันคือข้อมูลจากองค์กรข้อมูลด้านพลังงานของสหรัฐฯ รายสัปดาห์

เราจะรอดูข้อมูลอีกครั้งในวันพุธที่จะถึงนี้ แต่คาดว่าการผันผวนของตลาดที่มากขึ้นนั้นจะทำให้มีการเรียกราคาในจุดนี้ยากขึ้นเช่นกัน

Tariq Zahir กรรมการผู้จัดการที่ปรึกษาน้ำมัน Tyche Capital ที่ปรึกษาในนิวยอร์กกล่าวว่า:

“ในขณะที่เราเห็นราคาพุ่งสูงขึ้น แต่ผมรู้สึกว่าเหตุการณ์สำคัญของโลกมีผลต่อทิศทางการเคลื่อนไหวในครั้งต่อไปของราคาน้ำมัน ซึ่งถ้าผิดคาด เราก็วนกลับไปที่เดิมอีกครั้ง”

การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา

ลงชื่อออก
คุณแน่ใจหรือว่าต้องการลงชื่อออกจากระบบ?
ไม่ ใช่
ยกเลิกใช่
บันทึกการเปลี่ยนแปลง