โคโรนาไวรัสสร้างผลกระทบกับตลาดน้ำมันจนถึงตอนนี้อย่างไรบ้าง

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในสัปดาห์ที่แล้วสร้างผลกระทบต่อตลาดลงทุนอย่างคาดเดาไม่ได้ ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสตัวนี้ในสัปดาห์ที่แล้วมีน้อยมาก วิธีการแพร่ระบาด วิธีการทำให้ผู้ติดเชื้อถึงแก่ชีวิต และจนถึงตอนนี้จำนวนของผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เป็นที่ทราบกันดีว่าในโลกของการลงทุนว่าทุกครั้งที่ตลาดหวาดวิตกกับประเด็นอะไรสักอย่างมักจะผลักราคาลงสู่ก้นเหวได้อย่างง่ายดายโดยที่ความเป็นจริงแล้วสถานการณ์ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น เช่นเดียวกันกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่ทำให้นักลงทุนไม่สามารถคาดการณ์ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับราคาน้ำมันได้อย่างแม่นยำ ตอนนี้เศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจจีนต่างได้รับผลกระทบทั้งภาคการผลิตและการคมนาคม

ดาวน์โหลดแอป

เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก

ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

ดิฉันเชื่อว่ายิ่งวันและเวลาผ่านไป มนุษยชาติจะยิ่งได้ข้อมูลที่เกี่ยวเชื้อไวรัสตัวนี้มากขึ้นและเราก็จะยิ่งใกล้เห็นทางออกของปัญหานี้ ข้อมูลด้านล่างนี้จะช่วยทำให้ผู้อ่านได้ทราบถึงผลกระทบของเชื้อไวรัสโคโรน่าที่มีต่อตลาดน้ำมันจนถึงตอนนี้

เปรียบเทียบซาร์กับโคโรนา

เชื่อว่าผู้อ่านส่วนใหญ่น่าจะได้เห็นข้อมูลจากสื่อต่างๆ ที่เปรียบเทียบข้อมูลการแพร่ระบาดของ SARS ในปี 2003 กับโคโรนาในปัจจุบันไปบ้างแล้ว ในปี 2003 ที่เกิดการระบาดของโรค SARS ขึ้น สถานการณ์ของตลาดลงทุนในตอนนั้นก็ไม่ต่างจากตอนนี้คือตลาดหลักทรัพย์และราคาน้ำมันต่างพากันปรับตัวลดลง

การเปรียบเทียบที่เกิดขึ้นไม่ได้แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของการระบาดที่ส่งผลถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพราะช่วงเวลาที่ซาร์กำลังระบาดอยู่ใกล้กันกับช่วงเวลาที่จีนตอบโต้การรุกรานอีรักของสหรัฐฯ จึงเป็นเรื่องยากที่นักวิเคราะห์จะสามารถแจกแจงตัวเลขความเสียหายของช่วงเวลานั้นออกมาให้เห็นได้

อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของจีนในตอนนี้เติบโตขึ้นมากเมื่อเทียบกับสถานการณ์ของซาร์ในตอนนั้น การต่อสู้กับเชื้อไวรัสโคโรนาของจีนในครั้งนี้ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นขั้นเป็นตอนและโปร่งใส จนประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ยังออกมาทวิตชื่นชมและให้กำลังใจการปฏิบัติงานของประธานาธิบดี สี จิ้นผิงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ

ความโชคร้ายอย่างหนึ่งของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาในครั้งนี้คือการแพร่ระบาดเกิดขึ้นก่อนที่จะถึงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ที่สำคัญของจีนอย่างเทศกาลตรุษจีน โดยปกติแล้วประชาชนชาวจีนจะอาศัยวันหยุดในเทศกาลนี้เดินทางไปท่องเที่ยวและพักผ่อนในสถานที่ต่างๆ อย่างจริงจัง การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาทำให้ทางการจีนต้องสั่งระงับห้ามไม่ให้ประชาชนของตนเดินทางออกนอกประเทศในช่วงเวลาดังกล่าวซึ่งส่งผลให้ธุรกิจสายการบินและเชื้อเพลิงสำหรับเติมน้ำมันให้เครื่องบินต้องได้รับผลกระทบไปเต็มๆ

United (NASDAQ:UAL), Air Canada (TSX:AC), American Airlines (NASDAQ:AAL), Lufthansa (OTC:DLAKY), British Airways (OTC:BABWF) และ Cathay Pacific (OTC:CPCAY) ต้องหลีกเลี่ยงการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวชาวจีน

บางเที่ยวบินถูกระงับเที่ยวบินกลางทางระหว่างที่กำลังเดินทางจากประเทศจีนไปยังอเมริกาและยุโรปในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บางสายการบินต้องลดเที่ยวบินที่จะบินไปยังประเทศจีน ซึ่งสายการบินเหล่านี้จำเป็นต้องใช้น้ำมันจำนวนมหาศาลเพื่อบินข้ามทวีปอยู่ทุกวัน

ยกตัวอย่างเช่นเที่ยวบินที่บินขาเดียวจากลอส แองเจลลิสไปยังกรุงโตเกียวใช้น้ำมันประมาณ 9,500 แกลลอนคิดเป็น 226 บาร์เรล ถ้าเอาตัวเลขนี้เป็นที่ตั้งแล้วลองคิดตามว่าสายการบินเหล่านี้ที่บินจากจีนไปสหรัฐฯ หรือยุโรปต้องลดหรือระงับเที่ยวบินลงจะเกิดความเสียหายต่อตลาดน้ำมันดิบมากเท่าใด

โอเปกกับความกังวลต่อราคาน้ำมันดิบในระยะยาว

ถ้าขนาดประชาชนทั่วไปอย่างเรายังสามารถสัมผัสถึงผลกระทบที่เกิดจากไวรัสโคโรนาได้เช่น เรางดออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน งดไปยังสถานที่ที่มีผู้คนแออัด เท่ากับว่าเราลดการเดินทางลงซึ่งหมายความว่าการใช้งานน้ำมันของเราในแต่ละวันก็จะลดลงไปด้วย แล้วโอเปกจะไม่กังวลได้อย่างไรว่าปริมาณความต้องการน้ำมันดิบในระดับโลกจะลดลง

ก่อนหน้านี้โอเปกและประเทศพันธมิตรได้ประกาศที่จะลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงในช่วงไตรมาสแรกและไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 ไปแล้วซึ่งพวกเขามีแผนที่จะประชุมกันอีกในเดือนมีนาคมเพื่อจะยืดเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมันให้ยาวไปจนถึงเดือนมิถุนายน แต่ดูเหมือนว่าเพราะสถานการณ์ของโคโรนาตอนนี้อาจทำให้กลุ่มโอเปกและผองเพื่อนต้องมาวางแผนกันใหม่ อ้างอิงจากคำพูดของประเทศอัลจีเรียซึ่งตอนนี้ทำหน้าที่เป็นประธานกลุ่มโอเปก 1 ปีเผยว่าโอเปกกำลังพิจารณาจะเลื่อนการประชุมขึ้นมาให้เร็วขึ้นจากเดือนมีนาคมเป็นเดือนกุมภาพันธ์ 2020

แถลงการณ์นี้ทำให้นักลงทุนสงสัยว่าโอเปกกำลังหวาดวิตกต่อสถานการณ์ไวรัสโคโรนามากแค่ไหน เพราะก่อนหน้านี้ไม่นานรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของซาอุดิอาระเบียออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “ทางกลุ่มทราบดีถึงสถานการณ์ของไวรัสโคโรนาและพวกเรากำลังจับตาดูราคาน้ำมันดิบอย่างใกล้ชิด” ต่อให้โอเปกเร่งการประชุมขึ้นมาและมีมาตรการด่วนออกมารองรับแต่การดำเนินการเหล่านั้นจะช่วยพยุงราคาน้ำมันดิบได้มากแค่ไหน พวกเขาจะเพิมกำลังการผลิตทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้พึ่งสั่งลดการผลิตลงไป? สถานการณ์ความไม่สงบในลิเบียก็ยังอยู่และยังไม่นับถึงประเทศคู่แข่งที่ผลิตน้ำมันได้อย่างสหรัฐอเมริกาอีก

ท้ายที่สุดแล้วดิฉันเชื่อว่าตราบเท่าที่สถานการณ์ของโคโรนาไวรัสยังไม่มีข่าวดีและยังคงสร้างความหวาดกลัวให้กับนักลงทุนเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ราคาน้ำมันก็ไม่อาจจะกลับตัวขึ้นมาได้ภายในเร็ววัน