อัตราส่วนความต้องการระหว่างเงินกับทองคำกำลังส่งสัญญาณขาขึ้นให้กับนักลงทุน

 | Jun 09, 2020 11:45

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก: CQG

- จุดสูงสุดใหม่ของอัตราส่วนระหว่างเงินกับทองคำในเดือนมีนาคมปี 2020
- อัตราส่วนความต้องการระหว่างเงินกับทองคำที่ลดลง
- ประวัติการเคลื่อนไหวของกราฟอัตราส่วนความต้องการของตลาดแร่เงินและทองคำตั้งแต่ปี 2008-2011

การเปรียบเทียบอัตราส่วนระหว่างแร่เงินและทองคำไม่ใช่ว่าพึ่งมาเริ่มใช้กันในยุคปัจจุบันแต่มีหลักฐานทางโบราณคดีพบว่าการเปรียบเทียบอัตราส่วนดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่สมัย 3000 ก่อนคริสตกาลในยุคของฟาโรห์เมเนสแห่งอียิปต์ที่ทรงประกาศให้ครึ่งหนึ่งของแร่เงินมีค่าเท่ากันกับครึ่งหนึ่งของแร่ทองคำ

ในยุคปัจจุบันค่าเฉลี่ยของความสัมพันธ์ราคาระหว่างเงินและทองคำมีอัตราส่วนอยู่ที่ 55:1 ในตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนล่วงหน้า COMEX ครั้งหนึ่งอัตราส่วนนี้เคยขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ในปี 1990 และสร้างจุดต่ำสุดเอาไว้ในปี 1989 เมื่ออัตราส่วนลดลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยหมายความว่าแร่เงินมีมูลค่าถูกเมื่อเทียบกับทองคำและในทางกลับกันหากอัตราส่วนนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยเท่ากับว่าแร่เงินมีราคาแพงขึ้น

การขึ้นลงของอัตราส่วนระหว่างเงินและทองคำสามารถสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ความต้องการในแร่ทั้งสองจะเพิ่มขึ้น ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทองคำและเงินต่างเคยถูกใช้เป็นทั้งตัวกลางการแลกเปลี่ยนหลักและกลายเป็นสินทรัพย์สำรอง ทั้งสองแร่คือสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งและร่ำรวยมาตั้งแต่ในอดีต ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างนาย William McKinley และ William Jennings Bryan เคยถกเถียงกันมาแล้วว่าจะใช้ทองคำและเงินเป็นมูลค่าที่ผูกติดกับสกุลเงินดอลลาร์หรือไม่จนท้ายที่สุดนาย McKinley และทองคำก็ชนะการเลือกตั้งไป

ในเดือนมีนาคมปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่วิกฤตโควิด-19 ขึ้นถึงจุดสูงสุดเช่นเดียวกับความเสี่ยงในทุกตลาดลงทุน ราคาแร่เงินในตอนนั้นถูกกดลงสู่จุดต่ำสุด $12 ต่อออนซ์เมื่อปี 2009 ส่งผลให้กราฟอัตราความต้องการของแร่เงินและทองคำขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล

จุดสูงสุดใหม่ของอัตราส่วนระหว่างเงินกับทองคำในเดือนมีนาคมปี 2020