คาด SET INDEX อ่อนตัวลงกรอบ 1365 - 1375

 | Jun 18, 2020 03:16

นักลงทุนกลับมาวิตกอีกครั้งกับ สถานการณ์ COVID19 หลังพบผู้ติดเชื้อเร่งตัวขึ้นในสหรัฐ และ จีน สำหรับสหรัฐ ตัวเลขผู้ติดเชื้อวันที่ 16 มิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.5 หมื่นรายนับเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นสูงสุดใน รอบ 3 วัน ขณะเดียวกันประเทศจีนเริ่มเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 3 วันติดต่อจาก เดิมที่สามารถคุมจนเป็น 0 อย่างไรก็ตามเชื่อว่าท้ายที่สุดจีนจะสามารถคุมได้ เนื่องจากมีประสบการณ์ในการรับมือแล้วก่อนหน้านี้ ส่วนสหรัฐยังดูมีความเสี่ยงที่การ ระบาดจะยังคงดำเนินต่อเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังคงพบการเพิ่มขึ้นทุกวัน

ดาวน์โหลดแอป
เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก
ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

ด้านอุตสาหกรรมที่มองว่าน่าสนใจได้แก่ ค้าปลีก (BJC CPALL (BK:CPALL) HMPRO) เนื่องจาก
(1) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือน พ.ค. กลับมาฟื้นตัวครั้งแรกในรอบ 15 เดือน
(2) คาดว่าหลังจากรัฐบาลเดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวไปแล้ว อนาคตจากนี้เชื่อว่าจะตามมาด้วยมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ อิง 4Q ของทุกปีรัฐบาลมักจะ ออกนโยบายกระตุ้นการบริโภคออกมา อาทิ ปีที่แล้วมีมาตรการ ชิม ช็อป ใช้ หรือ ก่อนหน้าเป็น ช็อป ช่วย ชาติ
(3) คาดผลประกอบการ 2Q20 จะเป็นจุดต่ำสุดและ เริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ 3Q20
(4) Valuation ของกลุ่มค้าปลีกซื้อขายที่เพียง 26.5x Trailing PE ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ซื้อขายราว 30x

ด้าน Valuation ล่าสุดพบว่ายังคงซื้อขายที่ระดับสูงราว 20.8x Forward PE นับเป็น ระดับที่สูงสุดในรอบ 15 ปี (ตั้งแต่ Bloomberg เก็บข้อมูลมา) ขณะที่หากมองไปยัง กำไรปี 21 พบว่าลดระดับลงมาเหลือ 16.4x Forward PE ราว +1SD ในรอบ 12 ปี มองเป็นระดับกลางๆไม่แพงหรือถูกจนเกินไป ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นเลือก หุ้นมีปัจจัยบวก อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL CRC HMPRO) CGS Coverage ที่มี ปัจจัยบวกเฉพาะ (CBG MAJOR ERW SAPPE TFG)

Stock Pick
(BK:CRC) ( กดดูราคาหุ้นล่าสุด ) (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 45 บาท) คาดว่าผลประกอบการ 2Q20 จะเป็นจุดต่ำสุดและจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ 3Q20 หนุนจากการผ่อนคลาย Lock Down ของ รัฐบาลประกอบกับคาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาจากทางรัฐบาล ซึ่งบริษัทด้วยการที่มีธุรกิจค้าปลีกหลากหลาย (กีฬา อาหาร แฟชั่น วัสดุก่อสร้าง) จะเป็นผู้ได้ประโยชน์มากที่สุด ขณะเดียวกันจะได้ประโยชน์จากการคลี่คลายของ COVID19 ในอิตาลีเนื่องจากบริษัทมีรายได้จากอิตาลีราว 8%