เงินปันผลของธนาคารพาณิชย์กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงหลังจากเฟดเข้ามาควบคุม

 | Jun 29, 2020 12:31

หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ประกาศเข้ามาคุมการปันผลของธนาคารพาณิชย์และการซื้อหุ้นคืนแล้ว ความไม่แน่นอนของนักลงทุนที่ถือหุ้นของธนาคารใหญ่ๆ จึงเริ่มขึ้น ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้บอกกับธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ 33 แห่งและสถาบันทางการเงินว่าแบงก์ชาติจะไม่อนุญาตให้มีการเพิ่มเงินปันผลและการซื้อหุ้นคืนไปจนถึงเดือนกันยายนท่ามกลางความเสี่ยงจากวิกฤตโควิด-19 ที่กำลังผลักเศรษฐกิจของประเทศให้ถดถอยมากยิ่งขึ้น

การตัดสินใจครั้งนี้ของเฟดเกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขาได้รับผลการทดสอบความสามารถในการรับวิกฤตและการเอาตัวรอดในช่วงเศรษฐกิจถดถอย และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาแบบวิกฤตการเงินปี 2008 ขึ้นมาอีก เฟดจึงต้องดำเนินการตามที่เป็นข่าว นอกจากนี้ผลการทดสอบดังกล่าวยังบอกอีกด้วยว่าก่อนถึงไตรมาสที่ 4 มีความเป็นไปได้สูงว่าผู้ที่ทำการกู้ยืมจะไม่สามารถคืนเงินได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย

รองประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นายแรนดัล ควาเรสรองประธานเฟดกล่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้ของธนาคารกลางว่า “เหตุผลหลักๆ ที่เฟดจำเป็นต้องดำเนินการเช่นนี้เพื่อให้แน่ใจว่าเรามีเงินสำรองเพียงพอกับการเจอฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุดจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นได้ในไม่กี่เดือนข้างหน้า”

ดาวน์โหลดแอป
เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก
ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

ช่วงระหว่างที่มีการปิดล็อกเมือง ธนาคารใหญ่ๆ หลายแห่งไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงิน ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2020 พบว่าธนาคารใหญ่ๆ ของประเทศ 4 แห่งได้แก่ แบงก์ ออฟ อเมริกา (NYSE:BAC) ซิตี้กรุ๊ป (NYSE:C) เจพี มอร์แกน (NYSE:JPM) เวลล์ ฟาร์โก (NYSE:WFC) จ่ายเงินปันผลมากกว่ารายได้รวมที่ธนาคารสามารถทำได้ การเข้ามาคุมเงินปันผลของเฟดหมายความว่านักลงทุนจะได้เงินตอบแทนน้อยลงจากการถือหุ้นของธนาคารเหล่านี้

h2 ช่วงเวลาของการทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน/h2

จากข่าวการควบคุมเงินปันผลของเฟดส่งผลให้ดัชนีวัด 24 หุ้นของธนาคารยักษ์ใหญ่ KBW Bank Index ร่วงลงสู่จุดต่ำสุดของเดือนมิถุนายน