กราฟเด่นประจำวัน:แร่เงินก็สามารถเปล่งประกายได้ไม่แพ้ราคาทองคำ

 | Jul 23, 2020 06:06

หากเปรียบทองคำเป็นพระอาทิตย์แล้วแร่เงินก็คงสามารถเปรียบได้กับพระจันทร์และเมื่อพูดถึงสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีแต่คนจับตามองก็คงต้องบอกว่าราคาทองคำคือสิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจมากที่สุด แต่ในบางครั้งนักลงทุนก็ลืมนึกไปว่าพระจันทร์ก็สามารถให้แสงสว่างในยามค่ำคืนได้ไม่ต่างอะไรกับพระอาทิตย์ในตอนกลางวันเลย

แร่เงินถือเป็นสินค้าโภคภัณฑ์อีกตัวหนึ่งที่สามารถมีพื้นที่อยู่ในพาดหัวข่าวเศรษฐกิจมาตลอดสัปดาห์นี้ ด้วยผลงานขาขึ้น 13% ภายในเวลาเพียง 3 วันมุ่งหน้าขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 7 ปี มีราคาเทรดอยู่ที่ประมาณ $22 ต่อออนซ์ ตอนนี้เงินกำลังอยู่บนเส้นทางสร้างสถิติขาขึ้นมากที่สุด 3 สัปดาห์ในรอบทศวรรษ

เมื่อพูดถึงเงินจะไม่พูดถึงทองคำเลยก็คงจะไม่ได้ เมื่อวันอังคารสาเหตุที่ทำให้ราคาทองคำ ทะยานขึ้นมากจนดูเหมือนจะมากผิดปกติด้วยซ้ำเกิดขึ้นจากข่าวดีที่ผู้นำยุโรปสามารถตกลงกันเรื่องการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่า $2,000,000 ล้านเหรียญสหรัฐได้ แม้จะฟังดูเป็นข่าวดีแต่ถ้ามองอีกมุมนี่คือการลดทอนมูลค่าของเงินกระดาษลงครั้งใหญ่ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อตามมาได้ในภายหลัง นับตั้งแต่เริ่มปี 2020 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น 20% ในขณะที่ราคาของแร่เงินขึ้นมา 45% แซงหน้าทั้งตลาด NASDAQ ที่ปรับตัวสูงขึ้นเพียง 17% และ S&P 500 ที่ไม่ได้ขึ้นอะไรมากมายนัก

สาเหตุที่แร่เงินไม่ได้รับความนิยมเท่ากับทองคำก็เพราะแร่เงินไม่ได้ถูกใช้ในฐานะสินทรัพย์สำรองปลอดภัยของโลกแต่ถูกใช้เพื่อความต้องการบางอย่างในบางวงการเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นวงการอุตสาหกรรมสำหรับการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกซ์ซึ่งแร่เงินถูกใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตแผงโซลาร์เซลล์และเทคโนโลยี 5G

ในขณะที่ตลาดกำลังตื่นเต้นกับจุดสูงสุด $1866.44 ของราคาทองคำและเริ่มพูดกันเป็นวงกว้างแล้วว่า $1900 จะมาถึงเมื่อไหร่ แร่เงินกลับอยู่ห่างจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ตัวเองเคยทำเอาไว้ที่ $49.55 ต่อออนซ์ในต้นปี 1980 มากถึง 115% ดังนั้นการลงทุนในกราฟแร่เงินเทียบทองคำจึงไม่ได้รับความนิยมนักเพราะสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งสองมีตลาดลงทุนที่ไม่เหมือนกันเลยแต่นักลงทุนมักจะใช้กราฟ XAU/XAG ในการดูอัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทนเปรียบเทียบกับตลาดหุ้น