เมื่อการวิเคราะห์ด้วยเทคนิคและพื้นฐานมองหุ้น AstraZeneca ไม่เหมือนกัน

 | Sep 23, 2020 06:03

ในปี 2020 ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขึ้นมาจากก้นเหวเดือนมีนาคมได้เร็วและแข็งแกร่งที่สุดมีอยู่ 2 ประการ หนึ่งคือคำมั่นของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะ “ทำทุกอย่างไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น” เพื่อพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ล้มเพราะพิษโควิด-19 และความคืบหน้าของวัตซีนต้านโควิดที่ทุกคนมองว่าเป็นจอกน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เมื่อเสร็จปุ๊ปจะสามารถแก้ปัญหาโควิดได้ทั่วทั้งโลกทันที

และด้วยเหตุนั้นในปีนี้หุ้นของบริษัทเภสัชกรรมหรือบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่มีข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับวัคซีนต้านโควิดจึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนไม่ว่าบริษัทไหนจะมีข่าวดีก็ตาม ครั้งหนึ่งบริษัท AstraZeneca (NYSE:AZN) เคยเป็นผู้นำในอันดับต้นๆ ของบริษัทที่มีโอกาสผลิตยาต้านโควิดได้สำเร็จก่อนแต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ความเร็วนั้นเริ่มแผ่วปลายแล้ว

เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาบริษัท AstraZeneca และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ดที่ทำงานร่วมกันต้องหยุดโครงการทดลองยาเอาไว้ก่อนเมื่อหนึ่งในอาสาสมัครได้รับผลข้างเคียงที่รุนแรงและทันทีที่อาสาสมัครคนที่สองได้ทดลองยาและมีผลข้างเคียงอีกครั้งกรมควบคุมอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯ จึงได้สั่งระงับการทดลองของ AstraZeneca และทีมงานเอาไว้ชั่วคราวจนกว่าจะได้ผลวิจัยและหนทางที่ปลอดภัยมากกว่านี้

แม้ว่าทางบริษัทจะมีข้อมูลโต้แย้งออกมาว่าผลข้างเคียงดังกล่าวไม่ได้เกิดจากวัคซีนของพวกเขาและการทดลองในสหราชอาณาจักร บราซิล และแอฟริกาใต้ยังคงดำเนินต่อไปแต่ FDA ก็ยังไม่หยุดที่จะตรวจสอบและยังไม่อนุญาตให้การทดลองยาให้สหรัฐฯ กลับมาดำเนินการได้ตามปกติ นอกจากนี้ AstraZeneca ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความโปร่งใสในการให้ข้อมูลอีกด้วย

แน่นอนว่าข่าวร้ายเช่นนี้ย่อมไม่เคยส่งผลที่ดีต่อราคาหุ้น ดังนั้นหากว่าหุ้นของ AstraZeneca จะปรับตัวลดลงก็ถือเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่สิ่งที่เห็นก็คือว่าทำไมหุ้นของ AstraZeneca ถึงร่วงลงมา 4% จากจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมทั้งๆ ที่ตอนนั้นวัคซีนต้านโควิดของบริษัทยังสามารถดำเนินการทดลองได้ตามปกติ? เมื่อหาคำตอบจากปัจจัยพื้นฐานไม่ได้แล้วเราก็ต้องกลับมาพึ่งวิถีดั้งเดิมของนักลงทุนซึ่งนั่นก็คือการวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่างที่เราคุ้นเคย

ดาวน์โหลดแอป
เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก
ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้