นักลงทุนจะรู้อะไรจากรายงานผลประกอบการของ Google และ Facebook

 | Oct 28, 2020 08:02

บริษัทสื่อโซเชียลยักษ์ใหญ่ของโลกอัลฟาเบต (NASDAQ:GOOGL) เจ้าของเสิร์ชเอนจินชื่อดัง “กูเกิล” และเฟซบุ๊ก (NASDAQ:FB) จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2020 ในวันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคมหลังตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด สิ่งที่นักลงทุนอยากเห็นที่สุดในการรายงานผลประกอบการครั้งนี้คือตัวเลขที่แสดงถึงผลกระทบจากโควิด-19 ที่มีต่อการฝากโฆษณาบนแพลตฟอร์มทั้งสองเพราะหากตัวเลขดังกล่าวดีขึ้น นั่นย่อมหมายถึงช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว

ในไตรมาสที่สองปี 2020 การรายงานผลประกอบการของกูเกิลค่อนข้างสร้างความตกใจให้กับนักลงทุนเพราะกำไรของบริษัทลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปี ดังนั้นในไตรมาสล่าสุดที่สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 30 กันยายน นักวิเคราะห์จึงประเมินว่าตัวเลขกำไรจะออกมาที่ $42,760 ล้านเหรียญสหรัฐและตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นจะออกมาอยู่ที่ $11.3

นักวิเคราะห์เห็นตรงกันอีกว่าปีนี้คือปีที่หนักที่สุดของกูเกิลในแง่ของกำไรเพราะกำไรของบริษัทมาจากการฝากโฆษณา และส่วนใหญ่บริษัทที่ฝากโฆษณาเหล่านั้นอยู่ในกลุ่มธุรกิจประเภทท่องเที่ยวและโรงพยาบาลซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แม้ว่า CEO ของบริษัทนายซันดาร์ พิชัยจะกล่าวในเดือนกรกฎาคมว่าเขาเห็น “สัญญาณความมีเสถียรภาพ” ซึ่งเราตีความว่าสัญญาณที่คุณซันดาร์กล่าวถึงคือการเติบโตของธุรกิจบนเทคโนโลยีคลาวด์เพราะในไตรมาสที่ 2 การใช้งานคลาวด์ของกูเกิลเพิ่มขึ้น 43%

นอกจากเรื่องการรายงานผลประกอบการแล้ว นักลงทุนต้องการทราบข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับที่กูเกิลถูกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นเรื่องต่อสภาเพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับการผูกขาดทางการค้าซึ่งข้อสงสัยนี้นอกจากกูเกิลแล้วยังมี แอมาซอน แอปเปิล (NASDAQ:AAPL) และเฟซบุ๊กที่ถูกตั้งคำถามด้วยเช่นกัน อ้างอิงจากนิตยสาร Wall Street Journal การเผชิญหน้ากับกระทรวงยุติธรรมถือเป็นด่านที่หินที่สุดด่านหนึ่งที่เคยเผชิญหน้ากับบริษัทยักษ์ในอดีตของประเทศมาแล้ว

แม้จะมีอุปสรรครออยู่ แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่ายอดผู้ใช้งานผ่านคลาวด์และ YouTube จะยังคอยช่วยหนุนกูเกิลให้สามารถก้าวผ่านวิกฤตโรคระบาดและปัญหาทางกฎหมายไปได้ ตลอดปี 2020 หุ้นของกูเกิลปรับตัวขึ้นมาแล้ว 20% มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $1600.75