รายงานผลประกอบการ Amazon ที่ดีกลับทำให้หุ้นบริษัทให้มีโอกาสลงไปยัง $2,300

แม้บริษัทผู้ค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างแอมาซอน (NASDAQ:AMZN) จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สามได้อย่างน่าประทับใจไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว แต่หุ้นของบริษัทกลับร่วงลงมากถึง 5.5% ในวันถัดมา คำถามคือทำไม? ขนาดว่ารายงานแนะนำหุ้นแอมาซอนจะบอกว่าขนาดและปริมาณการซื้อขายออนไลน์ในช่วงวิกฤตโรคระบาดจะเติบโตขึ้นแต่สำนักข่าว CNBC กลับเห็นแย้งว่าระยะกรอบกำไรในไตรมาสที่สี่ที่แอมาซอนวิเคราะห์มามีขนาดของต้นทุนที่กว้างเกินไป

อย่างไรก็ตาม รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สามของแอมาซอนก็ไม่ได้สนใจบทวิเคราะห์ของ CNBC เพราะตัวเลขที่ออกมายังแสดงผลประกอบการที่เติบโตขึ้น 37.4% คิดเป็นมูลค่า $96,150 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้บริษัทยังแสดงให้เห็นถึงการเติบโตในประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น

- กำไรในไตรมาสที่สามเพิ่มขึ้นประมาณ 37% คิดเป็น $96,150 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ยอดขายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของแอมาซอนเพิ่มขึ้น 33%
- ยอดขายสุทธิจากบริการของบริษัทเพิ่มขึ้น 43%
- กำไรจากการใช้บริการใน Amazon Web Services (AWS) เพิ่มขึ้น 29% คิดเป็น $11,600 ล้านเหรียญสหรัฐ

แต่เพราะรายงานผลประกอบการที่ออกมาว่าการเติบโตของผลกำไรเพิ่มขึ้น 28% - 38% กลับระบุด้วยว่าค่าดำเนินการเพื่อให้ได้ผลกำไรดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น $1,000 - 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ จุดนี้เองที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าแอมาซอนใช้งบประมาณส่วนนี้มากเกินไปและทำให้พวกเขารู้สึกเป็นกังวล เมื่อประเมินเป็นกำไรรายปีแล้วพบว่ามีการชะลอลงจาก +15% เป็น -74%

ด้วยสาเหตุนี้เองที่ทำให้นักลงทุนในตลาดมองว่าถึงอย่างไรหุ้นแอมาซอนก็ถือเป็นการลงทุนในระยะยาว ดังนั้นการเทขายหุ้นในช่วงเวลานี้จึงเป็นการดีกว่าเพื่อที่จะให้ได้ซื้อหุ้นในราคาที่ถูกลง ที่สำคัญการเทขายดังกล่าวสร้างรูปแบบทางเทคนิคของกราฟที่น่าสนใจขึ้นมาด้วย

ขาลงของหุ้นแอมาซอนเมื่อวันศุกร์ก่อให้เกิดเป็นรูปแบบหัวไหล่ (Head & Shoulder) เล็กที่สมบูรณ์ ในขณะที่รูปแบบหัวไหล่ใหญ่ต้องรอจนกว่ากราฟจะสามารถลงไปถึง $2888 ได้ หากพิจารณาระยะจากจุดสูงสุดของรูปแบบหัวเล็กลงมาจนถึงบริเวณฐานของไหล่ขวาแล้ว จะเห็นว่ากราฟใช้ระยะเดินทางลงมาทั้งหมด $350 เมื่อนำระยะดังกล่าวมาวัดกับขาลงที่พึ่งเกิดจากด้านไหล่ขวาที่พึ่งหลุดเส้นเทรนด์ไลน์สำดำลงมา พบว่ามีระยะเกือบเท่ากับระดับราคา $2,888 พอดี