5 เหตุผลอธิบายว่าทำไม EURUSD สามารถขึ้นยืนเหนือ 1.20 ได้

 | Dec 02, 2020 05:02

เป็นเวลานานเกินกว่าสองปีแล้วที่เราไม่ได้เห็นสกุลเงินยูโรเทียบดอลลาร์ขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ได้ไกลขนาดนี้ ไม่เพียงแค่ได้รับตำแหน่งสกุลเงินที่ทำผลงานดีที่สุดของวันแรกแห่งเดือนธันวาคมปี 2020 เท่านั้น แต่การทะลุแนวต้าน 1.20 ได้ทำให้กราฟ EURUSD ขึ้นสู่จุดสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2018 ดังนั้นวันนี้เรามีเหตุผล 5 ประการมาอธิบายว่าทำไมสกุลเงินยูโรถึงแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ทั้งๆ ที่ยุโรปยังอยู่ภายใต้การล็อกดาวน์อยู่
                                                                                                                 h2 1. การอ่อนค่าลงของดอลลาร์สหรัฐ/h2
 
จริงอยู่ที่ยูโรโซนเองก็ได้รับผลกระทบจากโควิดจนต้องล็อกดาวน์ แต่เมื่อเทียบสถานการณ์ระหว่างสกุลเงินยูโร และดอลลาร์แล้วพบว่ายูโรยังได้เปรียบอยู่อย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าเมื่อวานนี้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐจะปรับตัวขึ้นแต่ก็ยังมีตัวเลขอยู่ใกล้กับจุดต่ำสุดในรอบ 2.5 ปี นอกจากนี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มสูงขึ้นหลังวันขอบคุณพระเจ้าและธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ออกมาตอกย้ำจุดยืนว่าจะไม่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนกว่าเห็นสัญญาณอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นนั้นทำให้ดอลลาร์สหรัฐไม่มีความน่าสนใจในหมู่นักลงทุน นี่คือสาเหตุว่าทำไมเราจึงสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อวานนี้ว่าดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักแทบทุกตัวแม้ว่ากราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับตัวขึ้น 11% ก็ตาม
 
h2 2. ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจของยูโรโซนยังแข็งแกร่ง/h2
 

ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมาดีกว่าคาดการณ์ก็มีส่วนช่วยให้ยูโรแข็งค่าขึ้น ตัวเลขการว่างงานที่ลดลงอย่างน่าประหลาดใจของเยอรมันช่วยให้อัตราการว่างงานที่มาพร้อมกับการรายงานตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนปรับตัวขึ้น ชดเชยอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ แม้จะมีข่าวลือหนาหูว่าในการประชุมของธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) สัปดาห์หน้าจะต้องมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่อย่างแน่นอนแต่นักลงทุนก็ได้ทำใจรอความเคลื่อนไหวดังกล่าวเอาไว้แล้ว ดังนั้นต่อให้ ECB อัดฉีดเงินเข้าระบบจนทำให้ยูโรอ่อนค่าลง ก็ไม่น่าจะทำให้นักลงทุนตกใจได้จนถึงขนาดเทยูโรทิ้ง

 
h2 3. การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในยุโรปชะลอตัว/h2
 

ในตอนนี้ดูเหมือนว่ามาตรการล็อกดาวน์จริงจังของยุโรปเริ่มจะมีการผ่อนปรนบ้างแล้วเมื่อเห็นสัญญาณการชะลอตัวของการแพร่ระบาด เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในฝรั่งเศสลดลงเหลือ 4,005 คนต่อวันเมื่อเทียบกับจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำเอาไว้ที่ 86,000 คนในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ยอดผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ในสเปนมีตัวเลขเหลือ 10,000 คนนิดๆ เมื่อเทียบกับ 25,000 คนในวันที่ 30 ตุลาคม รายงานจากประเทศอิตาลีล่าสุดเมื่อวันจันทร์เช่นกันมียอดผู้ติดเชื้อใหม่ 16,370 คน ลดลงจาก 40,902 คนในวันที่ 13 พฤศจิกายน ถึงจะยังมีความผันผวนขึ้นๆ ลงๆ ของตัวเลขอยู่บ้างแต่ก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในสหรัฐอเมริกา

 
h2 4. ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น/h2
 
ที่น่าประหลาดใจก็คือแม้ยอดผู้ติดเชื้อจะสูงจนน่ากลัวมากเพียงใด แต่ดัชนีหลักของตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่าง S&P 500 หรือ NASDAQ กลับยังสามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่องซึ่งปัจจัยเชิงบวกนี้ส่งผลกระทบมายังตลาดหุ้นยุโรปด้วย ยิ่งฝั่งยุโรปมีการจัดการควบคุมโควิดที่ดีกว่า ย่อมหนุนให้มีโอกาสฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้ดีกว่า ยิ่งสุกลเงินยูโรเป็นสกุลเงินหลักอันดับต้นๆ ของโลกด้วยแล้ว การขึ้นลงในตลาดหุ้นย่อมมีบทบาทกับสกุลเงินยูโรโดยตรง กล่าวสั้นๆ ก็คือถ้ารัฐบาลมีการจัดการควบคุมเชื้อโควิดที่ดี ตลาดหุ้นก็จะสามารถปรับตัวขึ้นได้ เพราะนักลงทุนเชื่อมั่น และหันมาถือเงินสกุลนั้นๆ
h2 5. การเจาะแนวต้านของ EURUSD ตามหลักการวิเคราะห์ทางเทคนิค/h2
 

หากจะพูดกันในเชิงของการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้ว แนวต้าน 1.20 ถือเป็นหน้าด่านที่สำคัญยิ่งของกราฟ EURUSD สังเกตดูได้จากความเร็วของขาขึ้นที่ได้เห็นเมือ 1.20 ถูกเจาะขึ้นไปได้ภายในเวลาไม่ถึงนาที หมายความว่ามีคำสั่งซื้อถูกวางเอาไว้เหนือ 1.20 เป็นจำนวนมาก กราฟ EURUSD ก็กระโดดขึ้นมากกว่า 20 จุดภายในเวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง มีราคาซื้อขายสูงขึ้นกว่าเดิม 50 จุด สำหรับตอนนี้ แนวต้านถัดไปของกราฟ EURUSD จะอยู่ที่ 1.2093 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเดือนกันยายนปี 2017