บทวิเคราะห์ประจำสัปดาห์: การเติบโตของตัวเลขการจ้างงานฯ, บิทคอยน์ยืนเหนือ $41K

 | Aug 02, 2021 04:33

การรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯ ได้ผ่านช่วงครึ่งทางมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่น่าสนใจคือเราได้เห็นความลังเลของนักลงทุนในตลาดทันทีหลังจากที่บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เคยเป็นท่อน้ำเลี้ยงความแข็งแกร่งให้กับตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณทำกำไรหดตัวลดลง นักลงทุนกำลังอยู่ในช่วงสับสนว่าจะเสี่ยงมากขึ้นหรือลดความเสี่ยงดี เพราะนอกจากตัวเลขผลประกอบการแล้ว ก็ยังมีปัจจัยอื่นที่อาจสร้างผลกระทบได้อีกเช่นเงินเฟ้อและการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา แต่สิ่งที่นักวิเคราะห์จะให้ความสำคัญมากที่สุดในสัปดาห์นี้จะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้นอกจากการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ประจำเดือนกรกฎาคมที่จะเกิดขึ้นในวันศุกร์นี้h2 ธีมการลงทุนแบบโยกกลุ่มหุ้นกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง?/h2

สิ่งที่ทำให้นักลงทุนเสียขวัญมากที่สุดในสัปดาห์ที่แล้วไม่ใช่เงินเฟ้อหรือการระบาดของโควิดเดลต้า แต่กลับเป็นกำไรของบริษัทรีเทลยักษ์ใหญ่อะเมซอน (NASDAQ:AMZN) ที่ไม่สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หุ้นของอะเมซอนร่วงภายในวันเดียว 7.56% สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับตลาดเป็นอย่างมาก ขาลงของหุ้นอะเมซอนครั้งนี้ยังทำให้ดัชนีหลักทั้งสี่ของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง แต่ที่มากที่สุดก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเอสแอนด์พี 500 และแนสแด็ก ในขณะที่ดาวโจนส์ร่วงลงเพราะหุ้นไมโครซอฟต์ (NASDAQ:MSFT)

ถือเป็นเรื่องน่าสนใจที่เราได้เห็นหุ้นของบริษัทรีเทลรายใหญ่ปรับตัวลดลง เพราะในรายงานผลประกอบการของเพื่อนร่วมกลุ่ม 5 เทพหุ้นเทค “FAAMG” อย่างเฟซบุ๊ก (NASDAQ:FB) และแอปเปิล (NASDAQ:AAPL) ต่างก็พูดในทำนองเดียวกันว่าธุรกิจโลจิสติกส์ยังคงได้รับผลกระทบจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่เท่ากันอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อยักษ์ใหญ่แห่งเทคโนโลยีทั้งห้าเริ่มส่งสัญญาณเตือน จึงนำมาสู่การตั้งคำถามของนักลงทุนว่าควรจะโยกเงินลงทุนไปถือครองหุ้นกลุ่มอื่นดีหรือไม่ เพราะหุ้นที่พึ่งพาการฟื้นตัวของเทคโนโลยีก็ยังสามารถทำกำไรได้ดีในสัปดาห์ที่แล้ว

หุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้างเติบโตขึ้น 2.8% ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน 1.8% และการเงิน 0.7% ในขณะเดียวกัน กลุ่มหุ้นที่ติดลบของสัปดาห์ที่แล้วได้แก่กลุ่มผู้ให้บริการโทรคมนาคม -1.3% และกลุ่มเทคโนโลยี -0.7% กลุ่มหุ้นที่ช่วงต้นสัปดาห์ติดลบแต่สามารถกลับมาได้อย่างโดดเด่นคือกลุ่มสาธารณูปโภคด้วยตัวเลขปิดบวก 4.3%

นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) แนะนำว่าให้ถือหุ้นของกลุ่มสายป้องกันเอาไว้ BofA ให้เหตุผลว่าเมื่อคนในวงการเงินเริ่มให้ความเห็นที่ขัดแย้งกัน (แม้กระทั่งภายในเฟด) ทำให้ทิศทางของตลาดจะเริ่มวิ่งไปในทางที่ไม่แน่นอน ขาลงที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์คือภาพสะท้อนของสิ่งที่ BofA กล่าวได้เป็นอย่างดี การที่นักลงทุนกล้าเทขายหุ้นอะเมซอนขนาดนั้น ส่งสัญญาณของการสูญเสียความเชื่อมั่น

แต่ถึงหุ้นอะเมซอนจะปรับตัวลดลงมามากขนาดนั้น แต่สำหรับตัวดัชนีแล้ว กลับยังวิ่งลงมาจากจุดสูงสุดได้ไม่เยอะเท่าไหร่ ในสัปดาห์จึงต้องจับตาดูกันว่าดัชนีหลักของสหรัฐฯ จะเริ่มเปลี่ยนเทรนด์เข้าสู่แนวโน้มขาลงแล้วหรือไม่ สิ่งที่มีโอกาสจะพลิกตลาดกลับขึ้นมาได้คือการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรวัดการเติบโตของภาคแรงงานที่เฟดให้ความสำคัญมากที่สุดตัวหนึ่ง นอกจากนี้นักลงทุนต้องจับตาดูเกมการเมืองระหว่างสหรัฐฯ - จีนที่กำลังทำสงครามการค้ากันผ่านการลิสต์บริษัทขึ้นตลาดหุ้น

ความกังวลของนักลงทุนสะท้อนออกมาเป็นอย่างดีผ่านตลาดพันธบัตรรัฐบาล นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้กราฟอัตราผลตอบแทนพันธบัตรฯ ปรับตัวลดลงเรื่อยๆ