2 กองทุน ETF ที่มีโอกาสเติบโตในช่วงเวลาเฟดจะคงดอกเบี้ยระดับต่ำไปอีกนาน

 | Aug 04, 2021 04:30

เดือนกรกฏาคมที่ผ่านมาถือเป็นเดือนที่เต็มไปด้วยรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ไปได้ กำไรของบริษัทเหล่านี้ยังคงเติบโตต่อไปท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ถูกกดดันด้วยภาวะเงินเฟ้อ หนึ่งในไฮไลท์สำคัญประจำเดือนกรกฎาคมคือการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นในวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งผลที่ออกมาก็เป็นไปตามที่หลายๆ ฝ่ายคาดการณ์คือคงนโยบายการเงินและดอกเบี้ยเอาไว้ดังเดิม 

แต่สิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจกลับไม่ใช่นโยบายการเงิน แต่เป็นถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นายเจอโรม พาวเวลล์ ที่ได้ออกมาบอกว่าเศรษฐกิจอเมริกามีการฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรม และเขายังยืนยันคำเดิมว่าเงินเฟ้อที่กำลังเผชิญอยู่เป็นเพียงผลกระทบชั่วคราวจากนโยบายทางการเงิน นอกจากนี้ประธานเฟดยังคงย้ำชัดว่าจะไม่มีนโยบายใดๆ เพิ่มเติมหรือลดวงเงินเข้าซื้อพันธบัตรจนกว่าตลาดแรงงานจะฟื้นตัวกลับมาเป็นไปตามเป้าของเฟด และไม่ได้ให้ความสำคัญกับการระบาดของโควิดมากนัก

ท่าทีของเฟดเช่นนี้ถือว่าเข้าทางนักลงทุนในตลาดหุ้นที่ยังต้องการให้ตลาดปรับตัวสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ราวกับว่าปาร์ตี้จะไม่มีวันเลิกรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มเติบโตในระยะยาว ดังนั้นเราจึงได้มาแนะนำ 2 กองทุน ETF ที่เน้นหุ้นกลุ่มเติบโตเป็นหลัก

1. Direxion NASDAQ-100 Equal Weighted Index Shares ETF/h2

ระดับราคาปัจจุบัน: $85.01
กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $61.09 - $85.25
เปอร์เซ็นต์การปันผล: 0.45%
อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.35% ต่อปี

กองทุน ETF ที่มีชื่อว่า Direxion NASDAQ-100 Equal Weighted Index Shares (NYSE:QQQE) เป็นกองทุนที่เน้นหุ้นที่อยู่บนดัชนีแนสแด็ก 100 เป็นหลัก กองทุนนี้เริ่มต้นเปิดให้ลงทุนตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม แบ่งสัดส่วนการถือหุ้นออกเป็นสามกลุ่มหลักๆ ได้แก่เทคโนโลยี 41.35% ผู้ให้บริการโทรคมนาคม 12.99% และสินค้าฟุ่มเฟือย 15.06% หุ้นสิบอันดับที่มีมูลค่าสูงสุดในกองทุนคิดเป็น 52% ของสินทรัพย์ทั้งหมดซึ่งมีอยู่เกือบ $405 ล้านเหรียญสหรัฐ