2 กองทุน ETF น่าลงทุนสำหรับผู้ที่สนใจหุ้นแดนมังกร

 | Aug 04, 2021 11:07

การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้การใช้ชีวิตของพวกเราต้องพึ่งพาอยู่กับสื่อออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันออนไลน์จากประเทศใดก็ตาม หากใช้งานได้ดี ก็จะเข้าไปอยู่ในใจของผู้ใช้งานและกินส่วนแบ่งทางการตลาดของผู้บริโภคในประเทศนั้นได้ไม่ยากเย็นนัก สำหรับประเทศจีนเรื่องนี้คือเรื่องใหญ่ การเข้ามาของเทคโนโลยีโลกตะวันตกถือเป็นสิ่งที่จีนกังวลมาก ดังนั้นพวกเขาจึงมีกฎหมายมากมายมาควบคุมผลิตภัณฑ์จากต่างแดน รวมถึงแพลตฟอร์มธุรกิจที่มาจากโลกตะวันตกด้วย

อ้างอิงข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ “The People’s Daily” ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ของฝั่งพรรคคอมมิวนิสต์ได้ออกมาพูดอย่างชัดเจนว่าการต่อต้านการผูกขาดการค้าถือเป็นภารกิจหลักของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ที่มาจากต่างประเทศ ที่ผ่านมาเราได้เห็นการสกัดกั้นการเติบโตของธุรกิจมากมาย ไม่เฉพาะต่างประเทศ แต่รวมถึงธูรกิจของคนในชนชาติจีนเองเช่นการทำ IPO ของแอนท์กรุ๊ปโดยอาลีบาบา (NYSE:BABA) จนกระทั่ง IPO ที่เคยเป็นว่าที่เบอร์หนึ่งของโลกในแง่ของมูลค่าต้องหยุดโปรเจ็กต์ลงเพราะไม่อาจต้านทางรัฐบาลจีนได้

หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น นักลงทุนต่างชาติก็พากันเทขายหุ้นรายใหญ่ของจีน เคธี่ วู๊ด เจ้าของกองทุนเทคฯ ชื่อดัง “ARK Invest” ก็ได้ตัดสินใจปรับพอร์ตหนีความเสี่ยงเป็นที่เรียบร้อย ผลกระทบดังกล่าวยังทำให้หุ้นชื่อดังของจีนปรับตัวลดลงด้วยไม่ว่าจะเป็น

  • Alibaba ปรับตัวลดลง 14.2% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (YTD)
  • Baidu (NASDAQ:BIDU ปรับตัวลดลง 22.9% YTD
  • Didi Global (NYSE:DIDI) ปรับตัวลดลง 27.6% ตั้งแต่เปิดพับบลิคในเดือนมิถุนายน
  • New Oriental Education & Technology (NYSE:EDU): ปรับตัวลดลง 88.3% YTD
  • Tencent (OTC:TCEHY) ปรับตัวลดลง 14.7% YTD

จากการเทขายหุ้นจีนในครั้งนี้ทำให้ดัชนีหลักของจีนอย่างเซิ่นเจิ้นคอมโพสิตและเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปรับตัวลดลงประมาณ 5% YTD หรือถ้าจะให้พูดง่ายๆ ก็คือตอนนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทจะทะเบียนในสหรัฐฯ ทำผลงานได้ดีกว่าของตลาดจีนแล้ว

ท่ามกลางกระแสเทขายหุ้นจีน ยังมีนักลงทุนบางส่วนที่เชื่อว่าจีนยังเป็นประเทศที่มีศักยภาพเติบโตต่อในแง่ของการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อหวังว่าในหวังที่กฎหมายของจีนเอื้อต่อการทำธุรกิจมากกว่านี้ บริษัทที่เคยมีมูลค่าลดลงจะกลับขึ้นมาเป็นเพชรเม็ดงามได้อีกครั้ง อย่างไรก็ดีนักลงทุนกลุ่มนี้ก็ไม่ได้อยากนำเงินลงทุนของตัวเองไปเสี่ยงกับกฎหมายของจีนด้วยตัวเอง จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะมาแนะนำกองทุน ETF ที่เน้นถือครองหุ้นจีนเป็นหลัก และสมควรพิจารณาหากต้องการลงทุนในตลาดหุ้นจีน

1. Global X MSCI China Consumer Discretionary ETF/h2

ระดับราคาปัจจุบัน: $30.15
กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $24.34 - $43.90
เปอร์เซ็นต์การปันผล: 0.07%
อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.65% ต่อปี

กองทุนแรกที่เราอยากจะแนะนำคือ Global X MSCI China Consumer Discretionary ETF (NYSE:CHIQ) เป็นกองทุนที่ลงทุนในบริษัทที่มีมูลค่าตลาด (market cap) อยู่ในระดับกลางไปถึงสูง บริษัทที่ CHIQ เน้นลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีผลิตภัณฑ์อยู่ในประเภทที่ “มีก็ได้ แต่ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น” ธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มนี้กำลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากประชาชนที่อยู่ในชนชั้นกลางมีโอกาสเปลี่ยนสถานะตัวเองได้ง่ายขึ้นตามการเติบโตของเทคโนโลยี