ธีมลงทุน Reflation ยังคงอยู่ นักลงทุนรอดูตัวเลขค้าปลีกและรายงานจากเฟด

 | Aug 16, 2021 04:28

แม้การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะคืบคลานมายังตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมากขึ้นเรื่อยๆ แต่นักลงทุนในตลาดก็ยังไม่คิดว่าปัญหานี้น่ากังวลแต่อย่างใด สังเกตได้จากการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของดัชนีหลักอย่างดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ที่สามารถทะยานสร้างจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลได้อีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว นับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2021 มาจนถึงปัจจุบัน ดัชนีเอสแอนด์พี 500 สร้างจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลไปแล้ว 48 ครั้ง แม้ว่าจะมีฝ่ายต่อต้านที่พยายามตั้งคำถามว่าขาขึ้นครั้งนี้จะยาวนานไปได้อีกนานเท่าไหร่ แต่ Reflation Trade ก็ยังสามารถพาตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นมาตลอดจนถึงปัจจุบัน

นอกจากตลาดหุ้นที่วิ่งขึ้นมาแล้ว ตลาดผลตอบแทนพันธบัตรก็ปรับตัวตามขึ้นมาด้วยเช่นกัน แต่สาเหตุที่อัตราผลตอบแทนปรับขึ้นเป็นเพราะรายงานตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจากมหาลัยมิชิแกนหดตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2011 เมื่ออัตราผลตอบแทนวิ่งขึ้น ย่อมหมายความว่านักลงทุนในตลาดได้เทขายดอลลาร์สหรัฐ และหันไปซื้อสินทรัพย์สำรองปลอดภัยอย่างเช่นบิทคอยน์หรือทองคำแทน ส่วนราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากความกังวลเกี่ยวกับความต้องการน้ำมันที่อาจได้รับผลกระทบจากการระบาดของเดลต้า

ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ยังสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลได้เป็นสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกันอย่างทุลักทุเล ปรับตัวกลับขึ้นมาจากการย่อตัวลง ขึ้นมาปิดตลาดในวันศุกร์ได้ 0.2% สร้างเป็นแท่งเทียนรูปแบบดาวตก (Evening Star) เอาไว้ให้นักลงทุนในสัปดาห์นี้ได้ลุ้นกันต่อว่าตลาดจะปรับตัวลดลงมาหรือไม่

หุ้นกลุ่มที่วิ่งขึ้นในวันศุกร์ที่แล้วคือหุ้นสายตั้งรับ นำโดยกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นมา 0.8% กลุ่มสาธารณูปโภค 0.7% และกลุ่มเฮลท์แคร์ 0.6% ส่วนกลุ่มที่ติดลบมากที่สุดได้แก่พลังงาน -1.2% การเงิน 0.75% อุตสาหกรรมและสินค้าฟุ่มเฟือยตัวละ -0.3% แม้ว่าโดยภาพรวมแล้วในสัปดาห์ก่อนจะยังสามารถทำจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ได้ แต่ก็ถือว่าปรับตัวขึ้นได้เพียง 0.7% เท่านั้น

ความกังวลของนักลงทุนตลอดทั้งสัปดาห์ที่แล้วได้สะท้อนผ่านออกมาถึงการปรับตัวขึ้นของหุ้นในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค 2.2% และสาธารณูปโภค 1.8% ในเวลาเดียวกันกลุ่มที่เคยเป็นผู้นำในสัปดาห์ก่อนหน้านั้นอย่างวัสดุก่อสร้าง และการเงินถึงจะยังอยู่ในขาขึ้น 2.75% และ 1.9% ตามลำดับ แต่ก็ถือว่าเป็นขาขึ้นที่ขึ้นได้น้อยลง

ในขณะเดียวกัน ดัชนีหลักอีกหนึ่งตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างดาวโจนส์ก็สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลได้ เฉพาะวันศุกร์วันเดียว ดาวโจนส์ยังสามารถปิดบวกได้ 0.04% แต่ถ้าพิจารณาภาพรวมทั้งสัปดาห์จะพบว่าดาวโจนส์สามารถปรับตัวขึ้น 0.9% ที่น่าสนใจก็คือภาพรวมของขาขึ้นในดัชนีดาวโจนส์นั้นมีความชัดเจนมากกว่าเอสแอนด์พี 500 ดังที่ปรากฎอยู่ในรูปด้านล่าง