เห็นหุ้น ADM ขึ้นแล้วอยากซื้อ? ลองใช้ Cash-Secured Puts อาจช่วยทำกำไรให้คุณได้

ดาวน์โหลดแอป

เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก

ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

ที่มา: Investing.com

สำหรับนักลงทุนที่ตกรถไปแล้ว แต่ยังอยากหาวิธีทำกำไรไปกับขาขึ้นของหุ้นเอดีเอ็มในรอบนี้ เรามีวิธีการลงทุนในตลาดออฟชั่นที่มีชื่อว่า Cash-Secured Puts มานำเสนอ ด้วยวิธีการเทรดนี้จะทำให้นักลงทุนสามารถทำกำไรจากค่าส่วนต่าง (ค่าพรีเมียม) จากการวางคำสั่งขาย หรือสามารถเป็นเจ้าของหุ้นเอดีเอ็มที่มีราคาต่ำกว่าระดับราคาปัจจุบันได้

การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และภาวะเงินเฟ้อที่เกิดในประเทศพัฒนาแล้ว ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็นกำไรของเอดีเอ็มในไตรมาสที่สองปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2021 ในช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม ผลปรากฎว่าบริษัทมีกำไรอยู่ที่ $22,920 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากำไรของช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ $16,280 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะเดียวกันตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้น (EPS) ก็มีตัวเลขเพิ่มขึ้นจาก 85 เซนต์เป็น $1.33

เอดีเอ็มประกาศว่ากำไรในไตรมาสนี้ของพวกเขามาจากสามส่วนหลักๆ ได้แก่

- พืชน้ำมันและบริการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการเกษตร: กำไรจากส่วนนี้เพิ่มขึ้น 38% YoY
- วิธีการแก้ปัญหาเกี่ยวกับคาร์โบไฮเดรต: กำไรจากส่วนนี้เพิ่มขึ้น 96% YoY
- การตอบสนองความต้องการด้านโภชนาการ: กำไรจากส่วนนี้เพิ่มขึ้นประมาณ 96% YoY

นายฮวน ลูเซียโน CEO ของเอดีเอ็ม ให้สัมภาษณ์ว่า

“ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีอีกไตรมาสหนึ่งที่บริษัทเอดีเอ็มของเราสามารถมีกำไรเติบโตแบบปีต่อปีแบบนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสามกลุ่มที่พูดถึงไปก่อนหน้านี้”

ปัจจุบันอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาตลาดของหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) มีตัวเลขอยู่ที่ 12.32x และอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาหุ้นกับมูลค่าทางบัญชี (P/B) อยู่ที่ 0.44x หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ ถึงแม้ราคาหุ้นของบริษัทจะอยู่ในแนวโน้มจขาขึ้น แต่ระดับมูลค่าที่แท้จริงกลับไม่ได้สูงเกินกว่าจะยากแก่การเอื้อมถึง 

นักลงทุนส่วนใหญ่ที่เลือกใช้วิธี Cash-Secured Puts คือกลุ่มที่มองว่าราคาหุ้นมีโอกาสขึ้นต่อได้อีกแม้ว่าจะเลยกรอบระยะเวลาสัญญาที่หมดอายุไปแล้ว สิ่งที่พวกเขาต้องการจากการลงทุนวิธีนี้คือกำไรจากค่าพรีเมียม และการถือครองหุ้นที่เลือกมาแล้วโดยเฉพาะ แต่ราคาหุ้นนั้นกลับอยู่สูงกว่าราคาต้นทุนที่พวกเขาต้องการ

การวางคำสั่ง put option กับสัญญาซื้อขายหุ้นเอดีเอ็มมีความหมายว่านักลงทุนคนนั้นต้องการขายหุ้นเอดีเอ็ม 100 หุ้น วิธีการที่มีชื่อเรียกในวงการออปชันว่า “Cash-secured” หมายความว่านักลงทุนคนนั้นมีเงินสำรองในบัญชีของโบรกเกอร์มากพอ หากว่าราคาหุ้นตัวนั้นปรับตัวลง และเงินสำรองที่กล่าวถึงนั้นจะต้องวางอยู่ในบัญชี ไม่สามารถขยับไปไหนได้จนกว่าสัญญาซื้อขายออปชั่นนั้นจะปิดตามเวลาที่กำหนด หรือหมดอายุสัญญาไปก่อน

สถานการณ์สมมุติว่านักลงทุนชื่อนายเอต้องการจะซื้อหุ้นของเอดีเอ็ม แต่ไม่ต้องการที่จะซื้อในราคาหุ้นปัจจุบันที่ $59.40 นายเอต้องการซื้อหุ้นเอดีเอ็มในช่วงเวลาไม่กี่เดือนข้างหน้า ที่ราคาหุ้นถูกลงมากกว่านี้ แน่นอนว่าความเป็นไปได้แรกที่ทุกคนคิดขึ้นมาก็คือ ต้องรอให้หุ้นเอดีเอ็มปรับตัวลดลงมา ซึ่งในความเป็นจริงอาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ และอีกหนึ่งวิธีที่จับต้องได้มากกว่าการรอเฉยๆ คือขายสัญญาออปชันของหุ้นเอดีเอ็มโดยใช้วิธี cash-secured put

หากใช้วิธีนี้ นายเอจะต้องทำสถานภาพของออปชันให้เป็น ATM หรือ At-the-money คือเมื่อราคาตลาดของสินค้าอ้างอิงเท่ากับหรือใกล้เคียงกับราคาใช้สิทธิ ผลของสถานภาพ At-the-money ก็คือ ไม่ว่าผู้ซื้อออปชั่นจะเลือกใช้สิทธิ หรือไม่ก็จะได้ผลตอบแทนจากการใช้สิทธิเท่ากับศูนย์ หรือไม่นายเอก็ต้องเลือกทำ OTM หรือ Out-of-the-money ซึ่งเป็นสถานภาพที่ผู้ถือออปชั่นจะไม่ใช้สิทธิอย่างแน่นอน เพราะถ้าใช้สิทธิไปก็มีแต่จะขาดทุน หาไม่ทำทั้งสองทาง เช่นนั้นก็ต้องทำให้ตัวเองมีเงินในบัญชีมากพอที่จะซื้อหุ้นของเอดีเอ็ม 100 หุ้น

สมมุติว่านายเอตัดสินใจลงทุนกับออปชันสัญญานี้ และกำหนดวันหมดอายุของสัญญาเอาไว้ในวันที่ 17 ธันวาคม ที่ระดับราคาหุ้นเอดีเอ็มปัจจุบัน $59.40 หากนายเอใช้ OTM put option เขาจะได้ราคา strike price ที่ 55.00 ซึ่งหมายความว่าคนขายจะต้องซื้อหุ้นเอดีเอ็ม 100 หุ้นที่ขายใน strike price $55.00 ภาพรวมที่ได้จะเท่ากับว่าสัญญานี้เป็น put option ของหุ้นเอดีเอ็มที่มีวันหมดอายุสัญญาในวันที่ 17 ธันวาคม ที่ strike price $55.00 และมีค่าพรีเมียมอยู่ที่ $1.45

สิ่งที่ผู้ซื้อต้องทำก็คือจ่ายเงินในอัตรา $1.45 X 100 หรือค่าพรีเมียม $145 ให้กับคนขายสัญญาออปชัน และค่าพรีเมียมนี้จะตกเป็นของฝั่งผู้ขายไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามในอนาคต และผลของสัญญานี้จะมีไปจนกระทั่งถึงวันที่ 17 ธันวาคม

ขอสมมุติอีกครั้งว่านักลงทุนเอต้องการวางคำสั่งซื้อขายพุชออปชั่นแบบ cash-secured ที่ $59.40 ในวันที่ 17 ธันวาคมซึ่งเป็นวันหมดอายุของสัญญา กำไรสูงสุดที่จะได้จากการทำพุชออปชันครั้งนี้จะอยู่ที่ $145 โดยไม่รวมค่าต้นทุนและคอมมิชชัน ระดับกำไรสูงสุดที่นายเอจะได้นี้จำเป็นจะต้องให้ราคาหุ้นของเอดีเอ็มมีราคาปิดสูงกว่า strike price ที่ $55.00 ด้วย หากเป็นตามเช่นที่ว่ามา วันหยดอายุของสัญญาออปชันนี้จะไม่มีความหมายไปในทันที

หากสัญญาพุชออปชันนั้น ITM (In-the-Money) ก่อนวันหมดอายุ (ราคาหุ้นจริงลงต่ำกว่าราคา strike price $50.00) คำสั่งพุชออปชันนี้จึงจะมีผลบังคับใช้ คนขายจะถูกบังคับให้ซื้อหุ้นเอดีเอ็มด้วยราคา strike price ที่ $55.00 ตามคำสั่งของพุชออปชัน (รวมแล้วเท่ากับ $5,500)

จุดคุ้มทุนของการยกตัวอย่างนี้คือราคา strike price ($55.00) ทำให้ค่าพรีเมียมที่ได้รับลดลง ($1.45) (ยกตัวอย่างเช่น $53.55) ที่ระดับราคานี้คือจุดที่คนขายถึงจะเริ่มเจอกับการขาดทุน วิธีการคำนวณว่าสถานการณ์ขาดทุนที่แย่ที่สุดจะเป็นเท่าไหร่ ให้ลองพิจารณาว่าถ้าคนวางคำสั่งพุชถูกบังคับใช้ซื้อหุ้นเอดีเอ็ม 100 หุ้นที่ราคา $55.00 จะเป็นเช่นไร ตามทฤษฎีแล้ว เป็นไปได้ที่ราคาหุ้นจะร่วงลงมาจนเหลือศูนย์ หากเป็นเช่นนั้นจริงความเสี่ยงสูงสุดจะไม่ต่างอะไรกับการถือหุ้นโดยตรง เพียงแต่จะได้รับเงินชดเชยบางส่วนจากค่าพรีเมียม ($145) คืนมาเท่านั้น

อันที่จริงแล้วการใช้ cash-secured put selling ดูจะเป็นวิธีการตั้งรับกับการซื้อขายหุ้นโดยตรงที่ราคาปัจจุบัน กลยุทธ์นี้สามารถช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็บสะสมต้นทุนก่อนที่ราคาหุ้นเอดีเอ็มจะปรับตัวขึ้นจริงๆ ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า นักลงทุนที่ทำกำไรจากวิธีการนี้ไปแล้ว ควรพิจารณาใช้ covered call ต่อเพื่อเพิ่มความสามารถในการได้เงินปันผลจากการถือหุ้น หากจะพูดอีกแบบหนึ่งว่า selling cash-secured puts คือขั้นแรกของการเริ่มถือหุ้นก็คงจะไม่ผิดนัก

เขียนโดย: Investing.com