นักลงทุนเตรียมหาที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจใหม่หลังตัวเลข NFP หดตัวเกินกว่าจะรับได้

 | Sep 06, 2021 04:30

นักลงทุนจะตระหนักได้แล้วหรือไม่ว่าสมควรโดดออกจากตลาดหุ้นที่มีความเสี่ยง?
หรือนักลงทุนจะยิ่งเห็นว่านี่คือโอกาสการไปต่อของขาขึ้น?

สถานการณ์ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอนนี้กลับตาลปัตรกันหมด ไม่มีอีกแล้วภาพจำที่ว่าหากเศรษฐกิจดี ตลาดหุ้นจะต้องวิ่งอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น เพราะเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว หลังจากที่เราได้เห็นตัวเลขการจ้างงานในเดือนสิงหาคมหดตัวมากที่สุดในรอบเจ็ดเดือนล่าสุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับขยับทำนิวไฮได้ ทั้งๆ ที่สัญญาณนี้ควรจะทำให้นักลงทุนเป็นกังวล แต่ไม่ พวกเขากลับเห็นเพียงแค่ว่าตัวเลขการจ้างงานนี้จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยิ้มออก และประกาศคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปโดยที่ไม่มีใครสามารถโต้เถียงด้วยตัวเองการจ้างงานฯ ได้เลย

ถึงแม้ว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ แต่ก็เป็นการขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นักลงทุนบางกลุ่มก็ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าควรตามขาขึ้นต่อดีหรือไม่ ทั้งๆ ที่ตัวเลขการจ้างงานฯ ในเดือนสิงหาคมออกมาเพียง 235,000 ตำแหน่ง แม้แต่ตัวเลขคาดการณ์ยังประเมินเอาไว้ที่ 720,000 ตำแหน่ง 

นักวิเคราะห์จากวอลล์ สตรีทเชื่อว่านักลงทุนบางกลุ่มเริ่มตั้งคำถามกับขาขึ้นที่ไม่สนความเป็นจริงครั้งนี้มากขึ้นเรื่อยๆ และท่ามกลางความสงสัยนี้ นักลงทุนบางคนจะเริ่มเลือกที่จะไปอยู่กับฝั่งขาลง ช่วยกันเทขายลงมาให้ตลาดได้ปรับฐาน ก่อนที่จะกลับเข้าไปช้อนซื้อใหม่อีกครั้ง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมดัชนีเอสแอนด์พี 500 ถึงจบตลาดการซื้อขายในวันศุกร์ด้วยการไม่ขยับไปไหนมากนัก ปรับตัวลดลงจากราคาเปิดเมื่อวันศุกร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เมื่อพิจารณาเข้าไปดูว่าหุ้นแต่ละกลุ่มบนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เป็นเช่นไร เราก็จะเห็นรูปแบบการวิ่งเข้าหาความเชื่อมั่นเหมือนกับในสมัยขาขึ้นของปีที่แล้วที่พึ่งพาแต่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นมากที่สุด 0.4% ส่วนหุ้นกลุ่มอื่นที่เคยเป็นแกนนำก่อนหน้านี้ต่างพากันปิดติดลบทั้งสิ้น กลุ่มสาธารณูปโภค -0.8% กลุ่มวัสดุก่อสร้าง -0.7% อุตสาหกรรม การเงินและพลังงานล้วนแต่ติดลบ 0.6%

เมื่อไปดูดัชนีทางด้านเทคโนโลยีโดยตรงอย่างแนสแด็กและแนสแด็ก 100 ความเป็นจริงในข้อสังเกตนี้ก็ยิ่งเด่นชัดขึ้น ดัชนีแนสแด็ก 100 สามารถปิดบวกได้ 0.4% ในขณะที่แนสแด็กปรับตัวปิดบวก 0.2% เป็นเพียงสองดัชนีเท่านั้นที่สามารถปิดตลาดซื้อขายเมื่อวันศุกร์เป็นขาขึ้นได้ นอกจากนี้เอสแอนด์พี ดัชนีอื่นๆ ต่างพากันปรับตัวลดลง รัสเซล 2000 ติดลบ 0.5% ส่วนดาวโจนส์ก็ไม่รอด ปิดตลาดติดลบ 0.2%

สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดลงทุนสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่แล้วกำลังบอกอะไรกับนักลงทุน? สิ่งนี้กำลังบอกว่าถึงแม้หน้าฉากดูเหมือนว่าตลาดหุ้นอยากปรับตัวขึ้นต่อจากความเป็นไปได้ที่เฟดจะยืดระยะเวลาการลดวงเงิน QE ออกไป แต่ในความเป็นจริง นักลงทุนก็กำลังกลัวสัญญาณที่จะบ่งบอกว่าเศรษฐกิจอเมริกากำลังอ่อนแอ และตัวเลขการจ้างงานเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว คือคำตอบที่ชัดเจนที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเกิดการชะลอตัวเพราะการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดเดลตา

อัตราผลตอบแทนของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะรุ่นอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นมายืนเหนือ 1.30 แสดงให้เห็นว่านักลงทุนเทดอลลาร์สหรัฐทิ้ง และยอมหันไปถือสินทรัพย์เสี่ยงอื่นอย่างเช่นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมากกว่า