ตลาดหุ้นและน้ำมันกอดคอกันลงขานรับตัวเลข CPI ที่ยังอยู่เหนือ 5.0%

ตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าบนดัชนีดาวโจนส์ เอสแอนด์พี 500 แนสแด็ก รัสเซล 2000และตลาดหุ้นยุโรปพากันปรับตัวลงหลังจากทราบตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกา ในขณะเดียวกันราคาน้ำมันดิบยังสามารถทรงตัวยืนเหนือ $70 ต่อบาร์เรล รอรับการมาถึงของพายุเฮอริเคนลูกใหม่ ที่พัดผ่านอ่าวของสหรัฐฯ และภาพรวมตลาดพลังงานจากกลุ่ม OPEC ที่เชื่อว่าก่อนสิ้นปีนี้ความต้องการน้ำมันของผู้บริโภคยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้

ในช่วงบ่ายของตลาดลงทุนฝั่งเอเชียและยุโรปเมื่อวานนี้ หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน (โดยเฉพาะน้ำมัน) ปรับตัวขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับพายุเฮอริเคนลูกใหม่ “นิโคลัส” ที่กำลังเป็นภัยคุกคามการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ก่อนหน้านี้กำลังการผลิตน้ำมันที่อยู่ในอ่าวดังกล่าวก็พึ่งถูกพายุเฮอริเคนไอดาเล่นงานไป และยังไม่สามารถกลับมาดำเนินการได้ดังเดิมจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางข่าวร้ายก็ยังมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อรายงานภาพรวมตลาดพลังงานจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ระบุว่าการฉีดวัคซีนต้านโควิดที่มากขึ้น อาจทำให้การท่องเที่ยวสามารถกลับมาได้ในช่วงปลายปีนี้

ก่อนที่ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกาจะประกาศออกมา ดัชนีดังของยุโรปอย่าง STOXX 600 ปรับตัวลดลงหลังจากที่ขยับตัวขึ้นได้เล็กน้อยในวันจันทร์ หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างเช่น LVMH (PA:LVMH), Kering (PA:PRTP) และ Richemont (SIX:CFR) ปรับตัวลดลง 2.6% 3.9% และ 3.2% ตามลำดับ ในขณะที่หุ้นกลุ่มผู้ผลิตเครื่องประดับอย่างเช่น Pandora (PNDORA) กลับกระโดดขึ้น 3.7% หลังจากที่บริษัทประกาศว่าจะเพิ่มยอดขายในปีหน้าให้ได้ 6-8%

ดัชนีที่ใช้วัดมูลค่าของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เป็นหลักอย่าง FTSE 100 ปรับตัวลดลงตามหุ้นของบริษัทเจ้าของเหมือง ทั้งๆ ที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างเช่นอะลูมิเนียม เหล็กกล้า และก๊าซธรรมชาติสร้างจุดสูงสุดใหม่ในตลาดหุ้นยุโรป แม้แต่ดัชนีราคาสปอตของสินค้าโภคภัณฑ์อย่าง Bloomberg Commodity Spot Index ปรับตัวขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบทศวรรษ

ดาวน์โหลดแอป

เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก

ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

 

ในช่วงหัวค่ำของวันที่ 14 กันยายน สหรัฐอเมริกามีการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เป็นหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐฯ ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศตัวเลข นักวิเคราะห์คาดว่า CPI จะปรับตัวขึ้นต่อเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกัน ก่อนหน้านี้ตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ เคยสร้างจุดสูงสุดที่ 5.4% YoY ซึ่งถือว่าสูงมากนับตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2008 แม้ตัวเลขเมื่อวานนี้จะออกมาอยู่ที่ 5.3% ก็ไม่ได้ช่วยให้นักลงทุนสบายใจขึ้นเลย

กราฟอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปียังทรงตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยม ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญ

การที่กราฟอัตราผลตอบแทนยังทรงตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมสมมาตรถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับนักลงทุนขาขึ้น เพราะภาพรวมใหญ่ของอัตราผลตอบแทนยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง การฟอร์มตัวเช่นนี้จึงกลายเป็นการสร้างความหวังและความเป็นไปได้ที่กราฟอัตราผลตอบแทนจะกลับไปเป็นแนวโนเมขาขึ้น

การประกาศตัวเลข CPI ที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากสี่เดือนก่อนหน้าทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง

กราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐอาจจะกำลังสร้างไหล่ขวาของรูปแบบหัวไหล่ขาลง (Head & Shoulder) หลังจากที่ส่วนหัวของรูปแบบหัวไหล่สามารถขึ้นสูงกว่าจุดสูงสุดในวันที่ 31 มีนาคม โดยมีภาพใหญ่ของ double-bottom รอรับอยู่

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากตัวเลข CPI ที่ทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า อย่างไรก็ตามขาขึ้นครั้งนี้ยังไม่สามารถขึ้นยืนเหนือ $1,800 

ภาพใหญ่ของทองคำในตอนนี้ยังคงเป็นการฟอร์มตัวแบบ double-bottom และในระยะสั้น กราฟก็ยังพยายามสร้างรูปแบบหัวไหล่ขาขึ้น ตำแหน่งปัจจุบันที่ราคาอยู่ในตอนนี้มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นไหล่ขวา

ราชาสกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์ยังคงไซด์เวย์อยู่ในกรอบรูปธง

 

กราฟบิทคอยน์กลับมาเป็นแนวโน้มขาลงอีกครั้งหลังจากร่วงลงมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่สำคัญตอนนี้กราฟกำลังนัวเนียอยู่กับเส้นค่าเฉลี่ย 50 และ 200 วัน

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน

ขาขึ้นของราคาน้ำมันในตอนนี้กำลังทดสอบเส้น neckline ของรูปแบบหัวไหล่ ปิดฉากการไซด์เวย์เป็นรูปธงโดยสมบูรณ์

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่เหลืออยู่ในสัปดาห์นี้

การประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนสิงหาคมของแคนาดา (วันนี้)
การประกาศตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ (วันพรุ่งนี้)
การประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนสิงหาคมของยูโรโซน (วันศุกร์)

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดลงทุน

ตลาดหุ้น

ดัชนี STOXX600 มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
ดัชนี S&P 500 ฟิวเจอร์สมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
ดัชนี NASDAQ 100 ฟิวเจอร์สมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับตัวขึ้น 0.1%

ดัชนี MSCI ของพื้นที่เอเชียแปซิฟิกปรับตัวลดลง 0.5%
ดัชนี MSCI ของตลาดเกิดใหม่ปรับตัวลดลง 0.6%

ตลาดสกุลเงิน

สกุลเงินยูโรเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 1.1819

สกุลเงินเยนเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 110.05
สกุลเงินหยวนเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 6.4423
สกุลเงินปอนด์ปรับตัวขึ้น 0.2% มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 1.3864

ตลาดพันธบัตร

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีมีตัวเลขอยู่ที่ 1.33%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมันอายุ 10 ปีมีตัวเลขอยู่ที่ -0.32%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นสองจุดเบสิสมีตัวเลขอยู่ที่ 0.76%

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้น 0.6% มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $73.97 ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำสปอตเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

เขียนโดย: Investing.com