ไตรมาสใหม่ ปัจจัยกังวลเดิม: เงินเฟ้อ ลด QE และรายงานผลประกอบการ

 | Oct 04, 2021 04:32

ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เริ่มต้นเดือนตุลาคมเมื่อวันศุกร์ด้วยหน้าตาที่สดใสพอสมควร ดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก ISM แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกามีการเติบโตขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ นอกจากนี้ตลาดหุ้นยังได้รับข่าวดีเมื่อบริษัทเมิร์ค (NYSE:MRK) สามารถส่งยาโมลนูพิราเวียร์ ยาต้านโควิดชนิดใหม่ผ่านการทดลองในเฟสที่ 3 ได้สำเร็จ แต่สิ่งที่ยังคงทำให้นักลงทุนกังวลไม่เลิกก็ยังคงเป็นภาวะเงินเฟ้อ ท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ และรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2021 ที่ใกล้จะถึงเวลาแล้ว

นอกจากสามปัจจัยที่กล่าวมา นักลงทุนต้องไม่ลืมว่าถึงแม้วันศุกร์ที่แล้วจะตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม แต่กลับไม่ได้รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) เพราะการรายงานตัวเลขนี้จะเกิดขึ้นในวันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะได้ตัวเลขการจ้างงาน “ดีดี” อีกหนึ่งครั้งก่อนประกาศลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนพฤศจิกายนหรือไม่คือสิ่งที่ตลาดจะให้ความสำคัญมากที่สุด 

การขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ แม้จะถูกเลื่อนออกไปเป็นการประชุมในวันที่ 18 ตุลาคม แต่นักลงทุนก็ต้องการทราบความเป็นไปได้ในระหว่างนี้อย่างต่อเนื่อง และต้องไม่ลืมว่าที่ฝั่งเอเชียก็ยังมีประเด็นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง “เอเวอร์แกรนด์” (OTC:EGRNY) (HK:3333) ผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งที่สอง และยังไม่รู้ว่าดราม่านี้จะจบลงเช่นไร ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่กำลังรอนักลงทุนอยู่ในการเปิดตลาดลงทุนเดือนตุลาคมอย่างเป็นทางการ

จิม แครมเมอร์ ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ “แมด มันนี่” ซึ่งเป็นช่องเกี่ยวกับการเงินบนช่อง CNBC วิเคราะห์ว่าการปิดคำสั่งซื้อขายเพื่อทำกำไรก่อนจะมีส่วนสำคัญกับการกดดันตลาดหุ้นก่อนรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2021 ในขณะเดียวกันก็มีนักวิเคราะห์หลายสำนักเห็นว่าปรากฎการณ์ “October Effect” จะเป็นปัจจัยฉุกรั้งตลาดหุ้นอเมริกาตลอดทั้งเดือน ถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยกดดันอย่างการประชุมเฟด โควิดที่ทำให้ซัพพลายเชนขาดแคลนและลามกลายมาเป็นเงินเฟ้อ นักวิเคราะห์สายคิดบวกบางคนก็ยังเชื่อว่าตลาดหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้

งานวิจัยจาก CFRA ระบุว่าตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ค่าเฉลี่ยการเติบโตของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ในไตรมาสที่สี่มีตัวเลขอยู่ที่ 3.9%  คิดเป็นการเติบโต 80% ของช่วงเวลาที่ทำการวิจัยทั้งหมด เท่ากับว่างานวิจัยนี้กำลังบอกว่าไตรมาสที่สี่จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเอสแอนด์พี 500 แต่ก็เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเดือนตุลาคมมักจะเป็นเดือนที่ตลาดลงทุนมีความผันผวนสูงถึง 36% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนอื่นๆ ในรอบปี

พฤติกรรมการวิ่งของดัชนีเอสแอนด์ 500 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็เริ่มส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง