ผลประกอบการอาจหนุนตลาดให้มีความเคลื่อนไหวในวิกฤตน้ำมันแพงที่สุดตั้งแต่ปี 2014

 | Oct 18, 2021 04:31

ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม เราได้เตือนแล้วว่าเดือนนี้จะเป็นเดือนที่ผันผวนที่สุดในรอบปี อ้างอิงจากสถิติของตลาดลงทุนที่เคยกิดขึ้นมา แต่ปีนี้อาจจะมีความพิเศษมากกว่าทุกปีเพราะภาวะเงินเฟ้อ ที่เกิดขึ้นจากมาตรการเยียวยาโควิด ยังคงสร้างแรงกดดันขาขึ้นในตลาดหุ้นมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ตลาดลงทุนมีความผันผวนมากเป็นพิเศษ แม้ว่าเดือนกันยายนจะได้ชื่อว่าเป็นช่วงเวลาขาลงที่หนักที่สุดนับตั้งแต่มีนาคมปี 2020 แต่เมื่อเข้าสู่เดือนตุลาคม ตลาดลงทุนก็สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้สองสัปดาห์ติดต่อกัน

ดัชนีหลักทั้งสี่ของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นเอสแอนด์พี 500 ดาวโจนส์ แนสแด็ก และแนสแด็ก 100 ต่างก็สามารถสร้างขาขึ้นได้ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ขาขึ้นของดัชนีดาวโจนส์สร้างสถิติดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2021 และเป็นขาขึ้นที่ดีที่สุดของเดือนตุลาคมในรอบหกปี จิม แครมเมอร์ พิธีกรรายการ “เมด มันนี่” (Mad Money) ถึงกับเรียกช่วงเวลาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วว่าเป็นเหมือนพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยนักลงทุนโดยแท้

สำหรับการรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 จิมคิดว่านักลงทุนไม่ได้สนใจว่าผลประกอบการของทุกบริษัทจะต้องเป็นบวกทั้งหมด ขอเพียงบวกมากพอจนนักลงทุนเลิกสนใจแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ และปัญหาซัพพลายเชนชาดแคลนก็เพียงพอแล้ว อาจจะฟังดูเหมือนเป็นคำพูดปลอบใจ แต่ก็ถือว่ามีส่วนจริงอยู่บ้าง เพราะตั้งแต่การระบาดเริ่มต้นขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน นักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์ สตรีทก็พยายามทำเป็นเหมือนกับปิดตาข้างเดียว สนใจแต่กำไรที่จะได้ แม้ว่านั่นจะหมายถึงผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจในระยะยาว