Investing.com | Oct 20, 2021 04:30
หากพูดถึงตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ นักลงทุนส่วนใหญ่จะนึกถึงทองคำ ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ฯลฯ ขึ้นมาทันที แต่น่าแปลกใจที่นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยพูดถึงสินค้าโภคภัณฑ์ที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่น้องฝาแฝดกับทองคำอย่างแร่โลหะเงิน
ราคาแร่โลหะเงินเคยขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $50.36 ได้ในปี 1980 ตอนนั้นบริษัทฮันท์ บราเทอร์สได้พยายามที่จะครอบครองตลาดแห่งนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ประกอบกับวิกฤตเศรษฐกิจก็ทำให้ราคาของแร่โลหะเงินปรับตัวลดลงในปี 2011 ลงมามีราคาซื้อขายต่อออนซ์อยู่ที่ $49.82
จุดสูงสุดที่แร่โลหะเงินพึ่งทำได้เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ปี 2021 ตอนนั้นราคาแร่โลหะเงินสร้างขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ $30.35 แม้ว่าจะปรับตัวลดลงมาเรื่อยๆ แต่ราคาแร่โลหะเงินเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ยังพยายามรักษาระดับของตัวเองให้ยืนเหนือ $20 ต่อบาร์เรล
แต่เมื่อได้ชื่อว่าเป็นสินค้าโภคภัณฑ์แล้ว ลักษณะการวิ่งของตลาดแร่โลหะเงินจึงไม่ต่างกับสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ที่มีความผันผวนสูง ในช่วงที่มีปัจจัยที่ควบคุมได้ยากเข้ามากระทบไม่ว่าจะเป็นโควิด ซัพพลายเชนขาดแคลน และเงินเฟ้อ ตลาดแร่โลหะสีเงินจึงผันผวนตาม ส่งผลให้บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับโลหะเงินต้องผันผวนตามไปด้วย ไม่เว้นแม้แต่บริษัทที่เป็นผู้นำในการทำธุรกิจเกี่ยวกับแร่โลหะเงินอย่าง แพน อเมริกัน ซิลเวอร์ คอร์ปเปอเรชัน (NASDAQ:PAAS)
ในขณะที่การปรับตัวลดลงของแร่โลหะเงินอาจเป็นหายนะของนักลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ แต่สำหรับคนที่รอซื้อหุ้นของบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์นั้น นี่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ได้เก็บหุ้นของ PAAS เข้าสู่พอร์ตการลงทุน
h2 ภาพรวมของแร่โลหะเงินและสินค้าโภคภัณฑ์ตัวอื่นๆ/h2ในปี 2021 สัญญาซื้อขายแร่โลหะเงินล่วงหน้าบนตลาด NYMEX มีราคาซื้อขายอยู่ระหว่าง $30.35 - $21.41 ต่อออนซ์ กราฟได้ขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และสร้างจุดต่ำสุดในช่วงปลายเดือนกันยายน ในวันที่ 15 ตุลาคม สัญญาซื้อขายแร่โลหะเงินล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนธันวาคมมีราคาซื้อขายอยู่ที่ $23.25 ต่อออนซ์ แน่นอนว่าแนวโน้มแบบนี้คือการวิ่งของตลาดขาลง
ที่มา: CQG
กราฟรูปนี้แสดงให้เห็นการสร้าง lower highs และ lower lows ที่ปรับตัวลดลงมาตลอดแปดเดือนล่าสุด ราคาซื้อขายแร่โลหะเงินตอนนี้วิ่งอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดของปี 2021 ประมาณ $7.10 และสูงกว่าจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคมประมาณ $1.84
ในช่วงไตรมาสที่ 3 เป็นช่วงเวลาที่แร่โลหะเงินได้สร้างจุดต่ำสุดใหม่ คิดเป็นการปรับตัวลดลงตลอดทั้งไตรมาส 15,74% ลงไปทำจุดต่ำสุดเอาไว้ที่ $21.41 ในวันที่ 29 กันยายน ก่อนที่จะวิ่งกลับขึ้นมาอยู่ที่ $22.04 ในวันที่ 30 กันยายน ไม่ใช่แค่แร่โลหะเงินเท่านั้นที่ปรับตัวลดลงในไตรมาสที่ 3 แต่สินค้าโภคภัณฑ์บางตัวก็มีมูลค่าลดลงด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น…
- ทองคำที่ปรับตัวลดลง 7.29% มากกว่าขาลงในเดือนไตรมาสที่ 3 ของปี 2020 ที่นับมาจนถึงวันที่ 30 กันยายน
- ทองคำขาวปรับตัวลดลง 10.96%
- พาลาเดียมปรับตัวลดลง 22.58% มากที่สุดในช่วงเวลาสามไตรมาสของปี 2021
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปีนี้ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้แอย่างโดดเด่น ทั้งๆ ที่มีปัจจัยเกื้อหนุนขนาดนี้เป็นเพราะนักลงทุนมีสินทรัพย์ทางเลือก ที่ใหม่กว่า ให้ผลตอบแทนได้เร็วกว่า ใช่แล้ว สิ่งที่ผมกำลังพูดถึงคือสกุลเงินดิจิทัล ที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนบดบังรัศมีของสินค้าโภคภัณฑ์แบบเดิมๆ ในปีนี้ไปเลย เรียกได้ว่าไตรมาสที่ 3 ปี 2021 ไม่มีใครสนใจทองคำ โลหะเงิน หรือโลหะมีค่าอื่นๆ ก็ไม่ผิดนัก
h2 ย่อแล้วซื้อคือกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด/h2ตั้งแต่ขึ้นปี 2020 มาจนถึงปัจจุบัน กลยุทธ์การลงทุนในทองคำและแร่โลหะเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือซื้อเมื่อขาขึ้นอ่อนกำลังลง
ที่มา: CQG
กราฟรายไตรมาสรูปนี้ช่วงเวลาที่ทองคำย่อตัวลงมาในแต่ละรอบ และความสามารถที่ให้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่ามาตั้งแต่ช่วงปลายปี 1990 หรือตั้งแต่ช่วงที่ทองคำลงไปมีมูลค่าอยู่ที่ $252.20 ต่อออนซ์ในปี 1999
แต่เมื่อเทียบทองคำกับแร่โลหะเงินในช่วงเวลาเดียวกัน (ตั้งแต่ปี 2020 จนถึงปัจจุบัน) ราคาแร่โลหะเงินมีความผันผวนมากกว่าทองคำอย่างมีนัยสำคัญ
ที่มา: CQG
กราฟรายไตรมาสรูปนี้แสดงให้เห้นว่าเวลาที่โลหะเงินลงไปถึงจุดต่ำสุดที่ $4.015 ในเดือนตุลาคมปี 2001 ก่อนจะขึ้นมาทำจุดสูงสุดที่ $49.82 ในปี 2011 ส่วนปัจจุบันนั้น ช่วงเวลาที่น่าสนใจคือทองคำสามารถสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ได้ในปี 2020 แต่โลหะเงินกว่าจะทำจุดสูงสุดที่ $30.35 ได้ต้องรอจนถึงช่วงต้นปี 2021
ย้อนกลับไปในช่วงต้นปี 2020 ราคาโลหะเงินย่อตัวลงมาเกือบ $19 ทำจุดต่ำสุดเอาไว้ที่ $11.74 ความผันผวนในช่วงโรคระบาดทำให้ราคาโลหะเงินปรับตัวขึ้นเกือบสามเท่าของจุดสูงสุดปี 2021 อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว ราคาโลหะเงินลงมาวิ่งอยู่ใกล้กับจุดต่ำสุดปี 2021
เมื่อเทียบลักษณะการย่อระหว่างทองคำกับโลหะเงิน จะเห็นว่าเมื่อย่อลงมาแล้ว มีโอกาสที่ราคาโลหะเงินจะย่อได้รุนแรงกว่า และมีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้ง่ายกว่าทองคำ อันที่จริงกราฟโลหะเงินไม่ชอบวิ่งตามการวิเคราะห์ทางเทคนิค แต่มีแนวทางการวิ่งของตัวเองตามระดับอุปสงค์อุปทานมากกว่า ด้วยความเสี่ยงเช่นนี้ เราจึงอยากแนะนำให้นักลงทุนคานความเสี่ยงในการลงทุนโดยเอาผลประกอบการของบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับโลหะเงินเข้ามาช่วย
หุ้นของบริษัทเหมืองที่ทำแร่เงินมีความเคลื่อนไหวคล้ายกับกองทุน ETF และ ETN แต่มีข้อได้เปรียบตรงที่มีอัตราต่อรองอย่างเลเวอเรจ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ตราสารอนุพันธ์ที่มีเลเวอเรจ มักจะมีปัญหากับความเสื่อมของเวลาเนื่องจากพวกเขาใช้ออปชั่นเพื่อขยายความเสี่ยงด้านราคา ถึงกระนั้นเราก็ยังอยากจะแนะนำหุ้นที่ทำเกี่ยวกับเหมืองแร่เงินให้ผู้อ่านได้พิจารณา
h2 บริษัท Pan American Silver คือผู้นำในอุตสาหกรรมโลหะเงิน/h2บริษัท Pan American Silver เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1979 ที่นี่พวกเขาตั้งแต่การเสาะหาแหล่งทรัพยากร พัฒนา สกัด เจียระไน ฯลฯ กับโลหะมีค่าตั้งแต่โลหะเงิน ทองคำ สังกะสี ตะกั่ว ทองแดง Pan American Silver มีเหมืองอยู่ในแคนาดา เม็กซิโก เปรู อาร์เจนตินา และโบลิเวีย ในปี 2020 Pan American Silver ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสิบผู้ผลิตโลหะเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยกำลังการผลิต 17.3 ล้านออนซ์
ในวันที่ 18 ตุลาคม หุ้น PAAS มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $24.71 มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามตลาดอยู่ที่ $5,293 ล้านเหรียญสหรัฐ ปริมาณการซื้อขายหุ้นตัวนี้ในแต่ละวันคือ 1.86 ล้านหุ้น มีเปอร์เซ็นต์การปันผลรายปีอยู่ที่ 1.62%
กราฟรูปนี้แสดงให้เห็นช่วงเวลาที่หุ้น PAAS ปรับตัวขึ้นจาก $10.61 ขึ้นมายัง $39.62 หรือจากเดือนมีนาคมปี 2020 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2021 ก่อนที่จะย่อตัวลงมาวิ่งอยู่ที่ $22.27 ในเดือนกันยายนปี 2021 ขาขึ้น 273.4% ในปีที่แล้ว และการย่อตัว 43.8% ในปีนี้ คือการย่อของราคาหุ้นอย่างชัดเจน
สรุปก็คือหากคิดจะลงทุนเพิ่มในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์แต่ต้องการลดความเสี่ยง การลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องถือเป้นการตัดสินใจที่ไม่เลว แม้ว่าปีนี้ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์จะไม่วิ่งขึ้นอย่างโดดเด่น และมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงต่อ แต่ถ้าผลประกอบการของ PAAS ออกมาดี หุ้นของบริษัทก็จะปรับตัวขึ้น สวนทางกับทิศทางในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และสามารถทำกำไรให้กับผู้ถือครองได้
การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา