ทองคำ ดอลลาร์ กอดคอกันขึ้น ตลาดลงทุนจับตาผลประกอบการหุ้นกลุ่มค้าปลีก

 | Nov 15, 2021 03:36

หัวใจสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาคือการบริโภคจากประชาชนภายในประเทศ ข้อมูลจากสถิติเผยว่าการบริโภคภายในคิดเป็น 69% ของขนาดเศรษฐกิจทั้งหมด คิดเป็นเงิน $23.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แต่ที่น่าตกใจคือตัวเลขการเติบโตของการบริโภคภายในในไตรมาสที่ 3 ทำได้เพียง 1.6% เท่านั้น ได้เพียงเสี้ยวเล็กๆ ของ 12% ในไตรมาสที่สอง ข้อมูลนี้คือการส่งสัญญาณเตือนมายังการรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ที่เป็นคิวของกลุ่มค้าปลีก ที่พึ่งพาการเติบโตของการบริโภคเป็นหลัก

รายงานผลประกอบการของบริษัทผู้ค้าปลีกในสัปดาห์นี้ค่อนข้างจะตรงไปตรงมา ยิ่งตัวเลขออกมาดี ย่อมหมายความว่าผู้คนมีความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ยิ่งผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างวอลล์มาร์ท (NYSE:WMT) ทาร์เก็ต (NYSE:TGT) และโฮมดีโป (NYSE:HD) ออกมาได้ถล่มทลายมากเท่าไหร่ ยิ่งส่งผลดีมากเท่านั้น วอลล์มาร์ทและโฮมดีโปจะรายงานผลประกอบการในวันและเวลาเดียวกันคืออังคารที่ 16 พฤศจิกายน ก่อนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิด ส่วนทาร์เก็ตนั้นจะรายงานในวันถัดไป แต่ในไตรมาสที่สาม ปัญหาสำคัญที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดในเวลานี้คือ ภาวะเงินเฟ้อ

หากคิดว่ารายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่รายงานไปเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนนั้นน่าตกใจแล้ว รายงานตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจากมหาลัยมิชิแกนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้นน่าตกใจกว่า เพราะความเชื่อมั่นในเดือนพฤศจิกายนได้ร่วงลงมาจาก 71.7 จุดในเดือนตุลาคม ลงมาเป็น 66.8 จุดในเดือนนี้ สะท้อนให้เห็นกำลังซื้อที่หายไป เมื่อต้องเผชิญกับ CPI แบบปีต่อปี ที่เพิ่มขึ้นเป็น 6.2% สูงที่สุดในรอบสามสิบปี ส่วนสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับตัวเลขผลสำรวจภาคการผลิตจากเอ็มไพร์ สเตต นิวยอร์ก ที่จะมีรายงานในวันนี้ และดัชนีภาคการผลิตจากเฟดฟิลาเดเฟียในวันพฤหัสบดี

ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะสามารถปิดเป็นบวกได้ในวันศุกร์ แต่ภาพรวมตลอดทั้งสัปดาห์ถือว่าติดลบ ดัชนีเอสแอนด์พี 500 แนสแด็กและดาวโจนส์ต่างจบสถิติขาขึ้นห้าสัปดาห์ติดต่อกันลงเป็นที่เรียบร้อย และรัสเซล 2000จบสถิติขาขึ้นสี่สัปดาห์ติดต่อกัน กลุ่มหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดในดัชนีเอสแอนด์พี 500 คือ กลุ่มผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร 1.46% ตามมาด้วยกลุ่มเทคโนโลยี 1.22% และกลุ่มอุตสาหกรรม 0.79%

แต่พิจารณาเป็นภาพรวมรายสัปดาห์ จะพบว่ากลุ่มที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดคือวัสดุก่อสร้างด้วยขาขึ้น 2.6% กลุ่มที่ปรับตัวลดลงคือสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวลดลงมากถึง 3.54% ส่วนเทคฯ นั้นปรับตัวขึ้นได้เพียง 0.14% เท่านั้น สัปดาห์ที่แล้วถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดแท่งเทียนด้วยแท่งสีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฝั่งขาลง