3 กองทุน ETF สำหรับผู้ที่ต้องการรับมือเงินเฟ้อด้วยกองทุนรวมทองคำและโลหะเงิน

 | Nov 18, 2021 03:35

ถึงแม้เราจะได้ยินข่าวเศรษฐกิจพาดหัวอยู่ตลอดทั้งปีว่า “มีความกังวลเงินเฟ้อ” แต่สินทรัพย์คานเงินเฟ้ออย่างทองคำและโลหะเงินกลับไม่ได้ทำหน้าที่มากเท่าที่ควร ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเพียง 2.5% ในขณะที่โลหะเงินปรับตัวขึ้น 5.5% ตามลำดับ 

อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ ดูเหมือนว่าตลาดลงทุนจะกลับมาให้ความสำคัญกับสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งสองอีกครั้ง เมื่อรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงานของสหรัฐอเมริกาทะยานขึ้นสูงอย่างน่าตกใจ ดัชนี CPI ที่มีชื่อเล่นว่า “มาตรวัดเงินเฟ้อ” และเป็นหนึ่งในสี่มาตรวัดเงินเฟ้อหลักของธนาคารกลางสหรัฐฯ ความตกใจของตลาดที่ได้เห็น CPI ในเดือนตุลาคมปรับตัวขึ้นมากถึง 6.2% YoY ส่งให้ทองคำดีดตัวขึ้นจาก  $1,830 ขึ้นมาทีเดียว $30 นี่คือตัวเลขเงินเฟ้อที่เติบโตเร็วที่สุดในรับสามสิบปี (ตั้งแต่พฤศจิกายนปี 1990) 

อันที่จริง ไม่ว่าเราจะเป็นนักลงทุนในตลาดอะไรก็ตาม สิ่งที่นักวิเคราะห์หรือกูรูมักจะย้ำอยู่เสมอคือให้ลงทุนในสินทรัพย์คานความเสี่ยงจากระบบการเงินปกติเอาไว้บ้าง อย่างน้อยต้องมีการลงทุนในทองคำประมาณ 5-10% เพื่อคานความเสี่ยงในกรณีที่เหตุการณ์เช่นทุกวันนี้เกิดขึ้น 

แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่ต้องลงทุนในทองคำหรือโลหะเงินรูปพรรณเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ผู้ที่สนใจกระจายความเสี่ยงสามารถเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวม ETF ที่ลงทุนกับบริษัทในอุตสาหกรรมโลหะมีค่าได้ ในบทความนี้ เราจะพาไปดูสามกองทุน ETF ที่น่าสนใจหากคิดจะลงทุนในทองคำและโลหะเงิน

h2 1. SPDR Gold Shares/h2

- ระดับราคาปัจจุบัน: $172.92
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $157.13 - $183.21
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.40% ต่อปี

ดาวน์โหลดแอป
เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก
ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

นักลงทุนทองคำต้องรู้จักกองทุนนี้เป็นอย่างดี SPDR® Gold Shares (NYSE:GLD) เป็นกองทุนที่ติดตามราคาทองคำแท่งโดยเฉพาะ เป็นตลาดทองคำสปอตที่เปิดให้ทำการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ในปัจจุบัน ความต้องการทองคำหลักๆ มาจากการลงทุนและการนำไปแปรรูปเป็นสินทรัพย์รูปพรรณ กองทุนนี้เปิดให้เริ่มต้นลงทุนมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2004 มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น $58,400 ล้านเหรียญสหรัฐ