กระแสวันหยุดขอบคุณพระเจ้าอาจดันให้ตลาดหุ้น (โดยเฉพาะบริษัทขนาดเล็ก) ปรับตัวขึ้น

 | Nov 22, 2021 03:31

จากข้อมูลประวัติศาสตร์ตลาดลงทุนของสหรัฐฯ ทุกๆ สัปดาห์ที่มีวันหยุดขอบคุณพระเจ้า และทำให้เวลาในการลงทุนสั้นกว่าปกติ มักจะเป็นสัปดาห์ที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น และเราก็คาดว่าลักษณะการวิ่งเช่นนี้จะเกิดขึ้นอีกในสัปดาห์นี้เช่นกัน ที่มีวันหยุดขอบคุณพระเจ้าในวันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน

สัปดาห์ที่แล้ว ตลาดหุ้นอเมริกาต้องขอบคุณรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ ที่ช่วยให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวกลับขึ้นมาจากการเทขาย ตัวเลขยอดขายปลีกในเดือนตุลาคมปรับตัวขึ้นมากกว่า 1.7% เอาชนะตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.2% ไปได้ ตัวเลข 1.7% นี้ถือเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 1990 การเติบโตของตัวเลขค้าปลีก ท่ามกลางวิกฤตเงินเฟ้อที่โตเร็วที่สุดในรอบสามสิบปี ถือเป็นประเด็นที่น่าสนใจมิใช่น้อย

โดยปกติแล้ว หากตัวเลขยอดค้าปลีกขยายตัว นั่นคือการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว และมักจะทำให้หุ้นสายมูลค่ามีโอกาสเติบโตได้ดีกว่าหุ้นสายเติบโต ยกตัวอย่างเช่นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แต่อุปสรรคสำคัญที่กำลังขวางกั้นการเติบโตของหุ้นสายมูลค่าในตอนนี้คือนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มว่าจะรัดกุมขึ้น และการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดระลอกใหม่ในยุโรป 

นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้สัปดาห์ที่แล้วดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 0.63% ดัชนีรัสเซล 2000 ปรับตัวลดลง 2.36% หุ้นในกลุ่มวัฐจักรไม่ว่าจะเป็นพลังงาน การเงินและ{{40670|อุตสาหกรรม}ต่างก็ปิดสัปดาห์ด้วยระดับติดลบ มีเพียงดัชนีแนสแด็ก 100 ที่สามารถสร้างขาขึ้นได้ 2.36% นับตั้งแต่มีการระบาด ดัชนีรัสเซล 2000 ก็ได้รับความสนใจจากตลาดลงทุนมากขึ้น เพราะขาขึ้นของรัสเซล 2000 หมายถึงความสามารถในการฟื้นตัวของบริษัทขนาดเล็กถึงกลาง

หากมองอีกด้านหนึ่ง ในตอนนี้ที่รัสเซล 2000 ปิดติดลบ หมายถึงโอกาสในการเข้าไปถือหุ้นของบริษัทขนาดเล็ก ที่มีโอกาสในการเติบโต ข้อมูลจากนักวิเคราะห์วอลล์ สตรีทระบุว่าตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนจนถึงปัจจุบัน มีเงินหลั่งไหลเข้าไปลงทุนในรัสเซล 2000 แล้วมากถึง $2,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นจำนวนที่มีมากพอสมควรเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคมปีนี้ และอย่าลืมว่าเดือนพฤศจิกายนนั้นยังไม่จบ 

อีกปัจจัยหนึ่งที่อาจส่งให้รัสเซล 2000 ปรับตัวขึ้นมากเป็นพิเศษในสัปดาห์คือรายงานตัวเลขการบริโภคส่วนบุคคลทั้งแบบปกติ (PCE Index) และแบบที่ไม่คำนวณรวมราคาอาหารและพลังงาน (Core PCE Index) ความสำคัญของตัวเลขนี้คือเป็นหนึ่งในสี่มาตรวัดเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐ

แซม สโตวอลล์ หัวหน้าฝ่ายวางกลยุทธ์ตลาดลงทุนของ CFRA เปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจว่า 2 ใน 3 ของนักลงทุนเชื่อว่าสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปรับตัวขึ้น และมีโอกาสสูงถึง 57% ที่ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นหลังจากวันขอบคุณพระเจ้า จากระบบอัลกอริทึ่มเฉพาะของ CFRA เผยว่ามีโอกาส 71% ที่วันนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะกลับเข้าสู่แนวโน้มกระทิง

กราฟอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปิดสัปดาห์ที่แล้วด้วยการวิ่งอยู่ต่ำกว่า 1.55 จุด เส้นเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนระยะสั้นและระยะยาวเริ่มทรงตัวหลังจากที่มีข่าวว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจเพิ่มวงเงินในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพราะการเติบโตของเงินเฟ้อในตอนนี้เร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ดัชนีดอลลาร์สหรัฐทะยานขี้นสู่จุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 เดือนกรกฎาคมปี 2020