2 กองทุน ETF ที่อาจได้ประโยชน์จากการอยู่ยาวของพาวเวลล์ไปอีก 4 ปี

 | Dec 09, 2021 03:29

เชื่อว่านักลงทุนทุกคนคงทราบแล้วว่าใครได้เป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ คนถัดไป ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ตัดสินใจแต่งตั้งให้นายเจอโรม พาวเวลล์ได้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อไปอีกสี่ปี ในขณะที่คู่แข่งของเขานางเลล เบรนาร์ด ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ

เมื่อคืนวันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน เกิดเหตุการณ์สำคัญในตลาดการเงินโลกขึ้น เมื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นายเจอโรม พาวเวลล์ ได้แถลงต่อสภาคองเกรสถึงการดำเนินนโยบายการเงินในช่วงที่ผ่านมา ไฮไลท์ของการประชุมครั้งนี้คือการยอมรับของเขาว่าเงินเฟ้อไม่ใช่เรื่องชั่วคราวอย่างที่เขาเคยกล่าวเอาไว้มาตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอีกต่อไป

“การพบผู้ติดเชื่อใหม่ และการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน สร้างความเสี่ยงต่อการจ้างงานและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนไม่กล้าที่จะกลับมาทำงาน หรือใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งจะส่งตลาดแรงงานและซัพพลายเชนชะลอตัวยืดเยื้อต่อไปอีก”

เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ประกอบกับความเสี่ยงจากการระบาดใหม่ของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่นาม “โอไมครอน” เจอโรม พาวเวลล์จึงได้แถลงต่อที่ประชุมว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าจะทบทวนนโยบายการเงินใหม่ และจะประกาศในการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14-15 ธันวาคมนี้ การทบทวนนโยบายของเขารวมถึงความเป็นไปได้ที่จะร่นระยะเวลาการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ให้จบเร็วขึ้น เพื่อที่จะได้รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้ได้ภายในช่วงครึ่งปีแรกของ 2022

ในวันพรุ่งนี้ ตลาดลงทุนจะจับตาดูการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อสำคัญของสหรัฐอเมริกา ชื่อว่าหากตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น การประชุมของเฟดจะยิ่งถูกเพิ่มความคาดหวังให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด หากเป็นเช่นนั้น หุ้นในกลุ่มที่จะได้ประโยชน์ไปเต็มๆ เลยคือหุ้นกลุ่มธนาคาร ประธานธนาคารกลางสาขาเซนต์หลุยส์เคยกล่าวเอาไว้ว่า

“ไม่มีธนาคารที่ไหนไม่ชอบการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะนั่นเท่ากับว่าพวกเขาจะได้กำไรเพิ่มจากดอกเบี้ยกู้ยืม เพราะการลงทุนมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้น” ในขณะเดียวกัน ฝ่ายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (ITA) เคยกล่าวว่า “ตลาดการเงินของสหรัฐฯ เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก”

ในปี 2020 ถึงแม้จะต้องเผชิญกับภัยโรคระบาด แต่จำนวนเงินหมุนเวียนในสหรัฐอเมริกามีมูลค่าเกือบแตะ $4.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จากข้อมูลที่กล่าวมา ในวันนี้เราจึงได้นำข้อมูลของกองทุน ETF ที่อาจสร้างความสนใจให้กับนักลงทุน ที่แสวงหาผลกำไรจากหุ้นในกลุ่มการเงิน

h2 1. Vanguard Financials Index Fund ETF Shares/h2

- ระดับราคาปัจจุบัน: $97.45
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $69.86 - $101.26
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 1.85%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.10% ต่อปี

ดาวน์โหลดแอป
เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก
ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

กองทุน ETF Vanguard Financials Index Fund ETF Shares (NYSE:VFH) เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มการเงินในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เป็นหลัก กองทุนนี้ก่อตั้งขึ้นในเดือนมกราคมปี 2004 มีสินทรัพย์รวมแล้วทั้งสิ้น $12,800 ล้านเหรียญสหรัฐ