3 กองทุน ETF ที่จะช่วยชดเชยรายได้ที่หายไปจากการลงทุนในหุ้นกลุ่มเติบโต

 | Jan 12, 2022 03:32

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดศักราชใหม่ปี 2022 ด้วยภาพที่ไม่สวยงามเท่าไหร่นัก ในสัปดาห์แรกของปีนี้ดัชนีหลักไม่ว่าจะเป็นดาวโจนส์ เอสแอนด์พี 500 และแนสแด็ก 100 ต่างก็ปรับตัวลดลงมาแล้ว 0.3% 1.9% และ 4.5% ตามลำดับ 

จากความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้ ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้นักวิเคราะห์เริ่มหาทางออกให้กับตลาดลงทุน ด้วยข้อมูลที่ว่าปีนี้มีโอกาสที่หุ้นเน้นมูลค่าและกองทุน ETF จะได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ เนื่องจากหุ้นสายเติบโตไม่สามารถไปต่อได้เพราะขาดสภาพคล่อง เฉพาะเดือนธันวาคมปี 2021 พบว่าดัชนีหุ้นสายมูลค่าของเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้น 6.8% ในขณะที่ดัชนีหุ้นสายเติบโตของเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เพียง 2.5% เท่านั้น

ถ้าหากกองทุน ETF จะกลายเป็นจุดสนใจในปีนี้ขึ้นมา แล้วมีกองทุน ETF ไหนที่เข้าตานักวิเคราะห์เหล่านั้นบ้าง ในบทความนี้เราจะพาไปดู

h2 1. Invesco S&P 500 Pure Value ETF/h2

- ระดับราคาปัจจุบัน: $54.40
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $62.65 - $84.97
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 1.34%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.35% ต่อปี

ดาวน์โหลดแอป
เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก
ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

กองทุนตัวแรกมีชื่อว่า Invesco S&P 500® Pure Value ETF (NYSE:RPV) เป็นกองทุนที่ใช้วัดศักยภาพของหุ้นสายมูลค่า ที่มีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งบนดัชนีเอสแอนด์พี 500 กองทุน RPV วัดอัตราการเติบโตของหุ้นด้วยอัตราส่วนทางการเงินที่เปรียบเทียบระหว่างราคาหุ้นต่อหุ้นเทียบกับมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (P/B) อัตราส่วนเทียบราคาหุ้นกับกำไรต่อหุ้น (P/E) และอัตราส่วนราคาต่อการขาย (P/S) RPV เปิดให้เริ่มต้นลงทุนมาตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2006