ปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดขาลงในตลาดคริปโตฯ ตอนนี้ไม่ได้มีเพียงเรื่องการเมือง

 | Jan 25, 2022 07:05

คำพูดปลอบใจยอดฮิตสำหรับนักลงทุนคริปโตในเวลานี้คงจะหนีไม่พ้นการดึงเอาประวัติศาสตร์อันหอมหวาน ออกมาเป็นเกราะป้องกันความคิดให้กับตัวเอง ท่ามกลางตลาดที่เผชิญกับแรงเทขายมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน นักลงทุนคริปโตฯ บางคนก็ยังเอาแต่บอกตัวเองว่า “ผลตอบแทนที่ได้จากวันแรกที่บิทคอยน์และอีเธอเรียมเริ่มเทรดถือว่าสูงมาก”

ถึงจะร่วงลงจากจุดสูงสุดเกือบ $70,000 ลงมาเหลืออยู่ที่ $35,000 ในปัจจุบัน คนที่ศรัทธาในบิทคอยน์ก็จะบอกว่า แต่เมื่อปี 2010 บิทคอยน์เคยมีมูลค่าอยู่ที่ห้าเซนต์เท่านั้นเอง อีเธอเรียมเองก็เช่นกัน การร่วงลงมาจาก $4,900 เหลือ $2,216 ก็ยังเทียบอะไรไม่ได้กับขาขึ้นจาก $11.13 ในปี 2016 หากมองเป็นภาพการเติบโตแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าสกุลเงินดิจิทัลนั้นมาไกลจริงๆ 

จังหวะนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ความเชื่อถูกทดสอบอีกครั้ง ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ตลาดคริปโตฯ ร่วงลงอย่างหนัก แต่ขาลงที่เกิดขึ้นคิดเป็นมูลค่าเงินแล้วหายไปเกินครึ่งหนึ่งของช่วงขาขึ้นตั้งแต่ $20,000 ขึ้นไปยัง $67,000 จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ความศรัทธาจะถูกตั้งคำถามอีกครั้ง… 

- นี่หรือเสถียรภาพทางการเงินใหม่ที่คนรุ่นใหม่คาดหวัง? 

- นี่หรือโลกการเงินในอนาคตที่อยากได้?

- สกุลเงินดิจิทัลที่มีมากกว่า 17,000 สกุลเงินจะเหลือรอดเพียงกี่สกุลเงิน? 

นอกจากแรงกดดันทางการเมือง และปัญหาเงินเฟ้อที่กลายเป็นธีมการลงทุนหลักในช่วงนี้ ในความเห็นของผม ปัจจัยทางเทคนิคก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบกับขาลงที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด แล้วจุดเริ่มต้นของการเทขายทางเทคนิคครั้งเกิดขึ้นจากตรงไหน ในบทความนี้เราจะพาไปดู

h2 จุดเปลี่ยนเทรนด์ที่นำมาสู่การปรับฐานครั้งใหญ่ของสกุลเงินดิจิทัล/h2
ดาวน์โหลดแอป
เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก
ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

จุดเปลี่ยนเทรนด์ที่นำมาสู่การปรับฐานครั้งใหญ่ของสกุลเงินดิจิทัลจุดเริ่มต้นของหายนะครั้งนี้อยู่ในวันที่ 10 พฤศจิกายนปี 2021 ที่นักลงทุนคริปโตฯ กำลังเฉลิมฉลองการสร้างจุดสูงสุดใหม่ของบิทคอยน์และอีเธอเรียม โดยหารู้ไหมว่านั่นกำลังจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเทขายครั้งใหญ่