MINA: สกุลเงินดิจิทัลที่หวังจะมาเป็นประตูเชื่อมโลกคริปโตฯ กับโลกความจริง

 | Mar 04, 2022 03:30

ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ คริปโตเคอเรนซี่ทั้งหมด 17,911 สกุลเงินกลับมาเป็นที่สนใจของตลาดลงทุนอีกครั้ง การเติบโตของเหรียญใหม่ๆ ที่เข้าสู่ตลาดนั้นเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ เพราะเมื่อลองมองย้อนกลับไป ในช่วงสิ้นปี 2020 จำนวนสกุลเงินดิจิทัลในวันนั้นยังมีเพียง 8,153 สกุลเงิน แต่มาวันนี้กลับมีจำนวนใกล้เคียงกับ 18,000 สกุลเงินเข้าไปแล้ว

ตำนานการเติบโตของสกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์จากห้าเซ็นต์ในปี 2010 กลายเป็นเกือบ 70,000 ดอลลาร์ในกลางเดือนพฤศจิกายน 2021 ยังคงเป็นเรื่องเล่าขาน ที่ทำให้ผู้คนเกิดความคลั่งไคล้ในการเก็งกำไร หวังที่จะได้เห็นนิวบิทคอยน์ในปัจจุบัน นักเก็งกำไรยินดีที่จะทุ่มเงินเข้าสู่ตลาดแห่งนี้ โดยหวังว่าจะได้ผลตอบแทนอย่างที่บิทคอยน์เคยทำมาในอดีตบ้าง

แต่ก็ไม่ใช่ทุก 17,900 เหรียญที่จะกลายเป็นนิวบิทคอยน์ได้ และมีเหรียญหลายตัวที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นการหลอกลวง หรือไม่ก็จางหายไปในกองฝุ่นแห่งกาลเวลา แต่ในขณะเดียวกัน เหรียญเกิดใหม่บางตัวก็มีฟังก์ชันการทำงานใหม่ และมีศักยภาพที่น่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่นเหรียญ Mina (MINA) สกุลเงินดิจิทัลน้องใหม่ที่นำเสนอภาพพจน์ของการ “กระจายอำนาจและความปลอดภัยที่แท้จริง"

ปัจจุบัน MINA ได้ไต่ขึ้นระดับจุดสูงสุดของสกุลเงินดิจิทัลได้แล้ว ด้วยการเข้าไปอยู่ในกลุ่มเหรียญ 100 อันดับแรก มีมูลค่าตลาดสูงกว่าอีก 99.5% หรืออีก 17,800 เหรียญที่เหลือ

h2 บล็อกเชนที่มีขนาด “เบา” ที่สุดในโลก/h2

Mina (MINA) เป็นบล็อกเชนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พวกเขาใช้กลไกผสมระหว่าง Proof-of-Stake (PoS) กับการจัดเก็บข้อมูลบล็อกเชนและประวัติการทำธุรกรรมโดยการบีบอัด ทำให้มีขนาดเล็กเพียง 22KB แตกต่างจากบล็อกเชนของเหรียญอื่นๆ เช่น บิทคอยน์บล็อกเชนที่มีขนาด 350GB และอีเธอเรียมบล็อกเชนที่มีขนาดมากกว่า 827GB

ขนาดของบล็อกเชน MINA ทั้งหมดมีขนาดเท่ากับ “การทวีตเพียงสองสามครั้ง” MINA ใช้การเข้ารหัสขั้นสูงและ zk-SNARK แบบเรียกซ้ำ เพื่อส่งมอบการกระจายอำนาจตามขนาด zk-SNARK เป็นตัวย่อที่ย่อมาจาก “Zero-Knowledge Succinct Non-Interactive Argument of Knowledge” เป็นหลักฐานการเข้ารหัสที่ช่วยให้ฝ่ายหนึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีข้อมูลบางอย่างอยู่โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลนั้น