พาดหัวข่าวรัสเซียยูเครนอาจส่งผลกระทบต่อผลการประชุมเฟดในสัปดาห์นี้

 | Mar 14, 2022 03:36

และแล้วสัปดาห์ที่นักลงทุนทั่วโลกรอคอยก็ได้มาถึง เพราะในสัปดาห์นี้หรือวันที่ 15-16 มีนาคมจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งนักลงทุนทั่วโลกเชื่อว่าจะต้องมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้แน่นอน แต่ถึงกระนั้น เชื่อว่าสำนักข่าวต่างๆ ก็จะยังคงเล่นข่าวสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนต่อไป

หลังจากที่คงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ที่ระดับใกล้กับ 0% มาตลอดตั้งแต่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นักวิเคราะห์จึงเชื่อว่าในการประชุมสัปดาห์นี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% เพราะก่อนหน้านี้นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้เคยกล่าวในแถลงการณ์ต่อสภาคองเกรสว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้อย่างแน่นอน เพราะเช่นนี้จึงทำให้ส่วนหนึ่งของตลาดประเมินว่าตลาดลงทุนอาจจะไม่เคลื่อนไหวต่อผลการประชุมมากนักหากออกมาเป็นไปตามคาด แต่สิ่งที่ตลาดลงทุนจะให้ความสนใจคือเหล่าบรรดาผู้มีสิทธิ์วางนโยบายการเงินอาจจะให้ข้อมูลคาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ และมุมมองที่มี่ต่อเศรษฐกิจในอนาคตจากการประชุมครั้งนี้เลยก็เป็นได้

สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือปฏิกิริยาของตลาดลงทุนอาจทำให้ผู้กำหนดนโยบายและผู้เชี่ยวชาญรู้สึกประหลาดใจ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดตั้งแต่ก่อนเกิดการระบาดใหญ่ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะตอนนี้อเมริกามีดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปี (7.9%) นั่นจึงทำให้ผู้กำหนดนโยบายจำเป็นต้องลดปริมาณเงิน พร้อมกับต้นทุนการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้นหลังจากนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายที่สุดในประวัติศาสตร์ 

ถึงแม้ว่าผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีความสำคัญมากเพียงใด แต่สิ่งที่นักลงทุนต้องจับตาดูควบคู่ไปด้วยกันคือสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียยูเครน ที่ยังคงรบกันอย่างต่อเนื่อง แม้รัสเซียจะต้องเจอกับการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่รุนแรงจากตะวันตกไปแล้ว หากสงครามมีการยกระดับความรุนแรง หรือมีความเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญ นั่นอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ด้วย

h2 เส้นค่าเฉลี่ยดัชนีหลักทั้งสี่ของสหรัฐฯ มาถึงจุดตัดสำคัญ/h2
ดาวน์โหลดแอป
เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก
ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

ความผันผวนตลอดทั้งสัปดาห์ที่แล้วทำให้ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลดลง 2.88% สร้างจุดต่ำสุดของสัปดาห์นับตั้งแต่สัปดาห์ของวันที่ 14 มิถุนายน