หลังจากหุ้น Target ร่วงลงมา 32% ถึงเวลาที่จะพิจารณาซื้อเข้าพอร์ตลงทุนของคุณแล้วหรือไม่

จากที่เคยปรับตัวขึ้นได้อย่างโดดเด่นในช่วงที่เกิดโรคระบาด ตอนนี้หุ้นของหนึ่งในบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ “ทาร์เก็ต” (NYSE:TGT) กำลังอยู่ในแนวโน้มขาลง ที่เปลี่ยนเทรนด์กลับจากขาขึ้นมาอย่างฉับพลัน คิดเป็นการปรับตัวลดลงมาแล้ว 32% จากจุดสูงสุดของปี 2022 นับเป็นหนึ่งในหุ้นค้าปลีกที่ปรับตัวลดลงมาที่สุดตัวหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ล่าสุดเมื่อวานนี้ หุ้นของทาร์เก็ตก็ยังคงอยู่ใกล้กับจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2021 มีราคาซื้อขายหุ้นล่าสุดอยู่ที่ $156.70

ขาลงฉับพลันครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากทาร์เก็ตรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ปี 2022 เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งตัวเลขที่ออกมานั้นแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ก่อนหน้านี้ตลาดลงทุนได้รับสัญญาณเตือนถึงภาวะถดถอยจากหลายๆ บริษัทที่ระงับการรับพนักงานใหม่ หรือบางบริษัทก็ตัดสินใจปลดพนักงานบางส่วนออก สิ่งที่เกิดขึ้นกับทาร์เก็ตถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังนักลงทุนให้เตรียมรับมือกับการรัดเข็มขัดที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า 

ในช่วงที่เกิดโรคระบาด ทาร์เก็ตและบริษัทค้าปลีกอื่นๆ สามารถทำกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ จากความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภค ข้าวของเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับครัวเรือน ความต้องการซื้อโทรทัศน์ และเฟอร์นิเจอร์ กระแสความต้องการเหล่านี้ช่วยให้หุ้น TGT ปรับตัวกลับขึ้นมาจากจุดต่ำสุดในเดือนมีนาคมปี 2020 ประมาณ 180%

แต่เมื่อสภาวะเงินเฟ้อมาถึง พฤติกรรมการบริโภคของผู้คนก็เปลี่ยนไป จากยอดขายที่เคยทำได้เกินเป้า ตอนนี้กลับกลายมาเป็นได้ยอดขายต่ำกว่าที่คาดการณ์มาแทน สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ กลายเป็นว่าบริษัทต้องรับภาระมีสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น ท่ามกลางสภาวะที่ราคาต้นทุนสินค้าแพงขึ้น และผู้บริโภคมีความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยลดลง

เมื่อไม่นานมานี้ บริษัททาร์เก็ตได้ออกมาประกาศปรับตัวเลขคาดการณ์กำไรลงสองครั้งในระยะเวลาสามสัปดาห์ล่าสุด พวกให้เหตุผลว่าเป็นเพราะมีสินค้าคงคลัง ค่าใช้จ่ายในการขนส่ง และต้นทุนในการเดินทางเพิ่มขึ้น พวกเขาบอกในรายงานนี้ด้วยว่าบริษัทจะสามารถทำกำไรจากการขายในไตรมาสนี้ได้ 2% ลดลงจากตัวเลขก่อนหน้านี้ที่เคยออกมาคาดการณ์เอาไว้ที่ 5.3% 

หลังจากที่ทาร์เก็ตออกมาประกาศเช่นนั้น แบงก์ ออฟ อเมริกา ธนาคารชื่อดังของสหรัฐอเมริกาได้ปรับลดตัวเลขความน่าลงทุนของหุ้นทาร์เก็ตจากหุ้นในกลุ่ม “ซื้อ” เป็น “กลาง” BofA ให้เหตุผลว่าปริมาณสินค้าคงคลังที่มีสูงเกินไป ทำให้หุ้นของทาร์เก็ตไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่มีมูลค่าสูงอีกแล้ว นอกจากนี้ BofA ยังปรับระดับราคาเป้าหมายของหุ้นลงจาก $235 เป็น $165 อีกด้วย

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ BofA ตัดสินใจลดระดับความน่าสนใจของของหุ้นทาร์เก็ตลงมาเป็นเพราะทาร์เก็ตมีสินค้าที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นมากกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทค้าปลีกรายอื่นๆ ของสหรัฐฯ กำไรมากกว่าครึ่งหนึ่งของทาร์เก็ตในปี 2021 มาจากการขายสินค้าจำเป็น ในขณะที่คู่แข่งคนสำคัญอย่างวอลล์มาร์ท (NYSE:WMT) สามารถทำกำไรจากหมวดหมู่เดียวกันได้ประมาณ 32%

h2 ภาพรวมของบริษัททาร์เก็ตในระยะยาว/h2

ถึงกระนั้นนายไบรอัน คอร์นเนลล์ CEO คนปัจจุบันของทาร์เก็ตก็ยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถเพิ่มกำไรจากการดำเนินงานขึ้นเป็น 8% ได้ในระยะยาว เขาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ว่าถึงบริษัทจะต้องเปลี่ยนเป้าหมายรายได้ของปีนี้ แต่เขาก็เชื่อว่าอัตราการเติบโตของรายได้ตลอดทั้งปีจะยังสามารถโตอยู่ในระดับกลางๆ ได้ตลอดทั้งปี เพื่อรักษาและเพิ่มโอกาสมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่้ม

ตอนนี้บริษัททาร์เก็ตได้เปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายไปแล้วบ้างด้วยการใช้บางสาขาที่มียอดขายต่ำเป็นจุดปล่อยสินค้าออนไลน์ ความพยายามนี้เกิดขึ้นเพื่อทำให้ระบบการค้าขายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เขาเป็นหัวหอกในการปรับปรุงร้านค้าหลายร้อยแห่ง และนำแบรนด์แฟชั่นราคาไม่แพงมากมาขาย และสนับสนุนข้อเสนออีคอมเมิร์ซของผู้ค้าปลีกรายย่อย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมจู่ๆ เราก็เห็นทาร์เก็ตอยู่ในสภาพแวดล้อมการขายที่แตกต่างจากที่เคยพบในช่วงโควิด ที่สำคัญ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้หมายความว่าทาร์เก็ตจะสูญเสียการดึงดูดนักลงทุนที่มีรายได้

ในการที่จะเลือกหุ้นที่สามารถปันผลได้ ปัญหาหลักๆ ที่ต้องคำนึงเลยคือหุ้นตัวนั้นจะสามารถสร้างกำไรได้ทั้งในวันที่ดีและไม่ดีได้หรือไม่ ซึ่งหุ้นทาร์เก็ตถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกหนึ่งที่สามารถตอบข้อสงสัยนี้ได้ ตลอดระยะเวลา 50 ปีล่าสุด หุ้นทาร์เก็ตสามารถเพิ่มการปันได้ทุกปีอย่างต่อเนื่อง อย่าลืมว่าช่วงเวลา 50 ปีนี้หมายความว่าบริษัทได้ผ่านช่วงวิกฤตดอทคอม แฮมเบอร์เกอร์ ไล่มาจนถึงวิกฤตล่าสุดอย่างโควิด 

ในขณะที่ทาร์เก็ตกำลังสร้างกระแสเงินสดให้กับนักลงทุนในแต่ละไตรมาส พวกเขายังสามารถรักษาอัตราการจ่ายเงินปันผลเอาไว้อย่างระมัดระวังโดยให้ไม่เกินระดับ 30% เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ทาร์เก็ตได้ประกาศจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น 32% พวกเขาได้ปรับเงินปันผลเป็น 0.9 ดอลลาร์ต่อหุ้นในทุกไตรมาส คิดเป็นการมอบผลตอบแทน 2.3% ต่อปี

h2 โดยสรุปแล้ว/h2

ดาวน์โหลดแอป

เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก

ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

แม้ว่าต้องเผชิญกับความท้าทายในระยะสั้น หุ้นของบริษัททาร์เก็ตยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกของหุ้นบริษัทค้าปลีกที่ดีที่สุด เพราะความสามารถในการปันผลกำไรที่มีเสถียรภาพสูง และการปรับแผนธุรกิจให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ขาลงในปัจจุบันนั้นเรามองว่าเป็นเพียงการปรับฐานในระยะสั้น และเป็นสปริงบอร์ดที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการถือหุ้นทาร์เก็ตเอาไว้ในระยะยาว

 

เขียนโดย: Investing.com