เยนอ่อนค่าจนใกล้ Low ในรอบ 24 ปี แล้วยังจะอ่อนค่าได้มากกว่านี้อีกหรือไม่

 | Jun 14, 2022 07:52

เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) แบบปีต่อปีในเดือนพฤษภาคมของสหรัฐอเมริกาครั้งล่าสุดออกมาอยู่ที่ 8.6% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากตัวเลขในเดือนเมษษยน 8.3% สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของเงินเฟ้ออย่างไม่หยุดหย่อน การเติบโตขึ้นของเงินเฟ้อในครั้งนี้ยิ่งสร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดความร้อนแรง

สิ่งที่นักลงทุนเป็นกังวลและสร้างความปั่นป่วนในตลาดลงทุนทุกประเภทก็มาจากสาเหตุนี้ พวกเขากลัวว่ายิ่งเงินเฟ้อขยายตัวเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็จะยิ่งมีความตึงตัวมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งอาจจะทำให้ผลการประชุมอัตราดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นในวันนี้และวันพรุ่งนี้ได้ข้อสรุปเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ต่อเนื่องจากช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ปรับขึ้น 0.50% มาแล้วครั้งหนึ่ง

ไม่ใช่แค่เพียงธนาคารกลางสหรัฐฯ แต่ธนาคารกลางทั่วโลกตอนนี้กำลังอยู่ในเทรนด์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นส่วนใหญ่ ธนาคารกลางยุโรปประกาศแล้วว่าจะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 11 ปีในเดือนกรกฎาคม ในขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษก็กำลังจะทำสถิติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยห้าครั้งติดต่อกันมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ถือเป็นสถิติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันมากที่สุดในรอบ 25 ปีของ BoE ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าในการประชุมครั้งถัดไป BoE ก็จะไม่พลาดที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน

นอกจากธนาคารกลางฝั่งตะวันตกที่พร้อมใจกันขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ธนาคารกลางในโซนเอเชียอย่างเช่นธนาคารกลางแห่งเกาหลีใต้ก็ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สองในวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีเพียงธนาคารกลางชื่อดังเพียงแห่งเดียวที่ยังยืนหยัดไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย และยังใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากๆ อยู่ นั่นก็คือธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) พวกเขายังคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ที่ 0% และยังรักษาคำมั่นที่จะขยายบัญชีงบดุลเพื่อรองรับตลาดหากจำเป็น

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกันเป็นว่าเล่นของธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ทั่วโลกส่งผลกระทบให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า และยังคงปรับตัวขึ้นต่อเป็นวันที่สี่ติดต่อกัน ดัชนีดอลลาร์สหรัฐขยับเข้าใกล้จุดสูงสุดรับตั้งแต่ปี 2002 สวนทางกับสกุลเงินเยนที่ยังคงอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง 

การทำนโยบายการเงินที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิงของธนาคารกลางสหรัฐฯ และญี่ปุ่นทำให้ตอนนี้สกุลเงินเยนกำลังวิ่งอยู่ที่จุดต่ำสุดในรอบ 24 ปี คำถามสำคัญก็คือว่ายังมีโอกาสที่ JPY จะอ่อนค่าลงไปได้มากกว่านี้อีกหรือไม่?