เน้นลงทุนหุ้นในกลุ่ม Anti-commodity

Investment Ideas:

ภาพรวมการลงทุน: คาด SET ยังคง Sideway ติดตามรายงานเฟ้อไทย วันนี้ เน้น Anti-commodity - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,580-1,610 จุด เราคาดว่า SET จะยังคงเคลื่อนไหวใน กรอบ sideway เนื่องจากขาดปัจจัยบวกสนับสนุนการลงทุน ขณะที่ตลาดหุ้นกลับมามีปัจจัยกดดันจาก ภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยล่าสุด BOE แถลงการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจ หลังมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ส่งผลให้ราคาน้ํามันดิบปรับลดลงต่ําจุดต่ําสุดใหม่ นับตั้งแต่เกิดเหตุสงครามรัสเซีย ยูเครน เรา ยังคงให้น้ําหนักหุ้นในกลุ่ม Anti-commodity ปัจจัยในประเทศ ยังคงต้องติดตามรายงานเงินเฟ้อของ ไทย (5 ก.ค.) ที่คาดว่าจะยังมีโอกาสทรงตัวในระดับสูง ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจในการดําเนินนโยบาย การเงินของ กนง. ซึ่งมีกําหนดการประชุม 10 ส.ค. เราคาดว่า กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่น้อยกว่า 25bps กลยุทธ์การลงทุน หุ้นในพอร์ต 50% เรายังชอบหุ้น Anti-commodity เน้นโรงไฟฟ้า - กลยุทธ์การลงทุน เรา ให้น้ําหนักการลงทุนในหุ้น 50% ของพอร์ต เรายังคงให้น้ําหนักหุ้นในกลุ่ม Defensive Stock เราเลือก EGCO RATCH GULF BDMS BH INTUCH AOT (BK:AOT) ADVANC หุ้นในกลุ่มอาหารต้นนําที่ได้ประโยชน์จากภาวะ ขาดแคลนอาหาร เราเลือก GFPT TU TFG ASIAN CFRESH CPE หุ้นในกลุ่มค้าปลีกและอุปโภคบริโภค เรา เลือก CRC CPN MBK MAKRO GLOBAL HMPRO หุ้นในกลุ่ม Anti-Commodity อย่าง BGRIM GPSC PTG SUSCOEPG และหุ้นใน Theme เปิดเมือง AOT BAFS SHR MINT MAJOR BEM AMATA สัปดาห์นี้ติดตาม ดุลการค้าสหรัฐฯ เงินเฟ้อของไทย และอัตราว่างงานสหรัฐฯ - 5 ก.ค. - ไทย: ดัชนีราคา ผู้บริโภคของไทย เดือน ก.ค. (คาด 7.5%YoY ลดสูงจากเดือน มิ.ย. 7.66%YoY) / สหรัฐฯ: รายได้เฉลี่ยต่อ ชั่วโมง เดือน ก.ค. (เพิ่มขึ้น 0.36MoM และเพิ่มขึ้น 4.9%YoY) อัตราการว่างงาน เดือน ก.ค. (คาด 3.6% ทรงตัว MoM) และอัตราการว่างงานนอกภาคการเกษตร เดือน ก.ค. (คาด 2.5 แสนตําแหน่ง) ปัจจัยพื้นฐานราคาน้ํามันดิบอ่อนแอ กังวลเศรษฐกิจชะลอตัว หลังอังกฤษคาดจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย นานถึง 5 ไตรมาส น้ําหนักหุ้นในกลุ่ม Anti-Commodity ตามพอร์ต Core Investment - สัญญาน้ํามันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดที่ 88.54 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลง 2.12 เหรียญ (-2.3%) แรงกดดันจากความ กังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป ล่าสุดธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ออกแถลงการณ์เตือน ว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่ 4Q65 จนถึงสิ้นปี 2566 ซึ่งเป็นช่วงเวลายาวนานที่สุด นับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจโลกเผชิญวิกฤตการเงิน โดยรายได้ในภาคครัวเรือนของอังกฤษปรับลดลงมาก ในปี 2565-2566 ขณะที่การบริโภคเริ่มชะลอตัว นอกจากนี้ BoE คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นทําจุดสูงสุดที่ 13.3% ในเดือน ต.ค. 2565 (ล่าสุด เดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 9.4%) และจะยังคงอยู่ในระดับสูงตลอดปี 2566 ก่อนที่จะปรับตัวลงสู่ระดับเป้าหมายของ BoE ที่ 2% ในปี 2558 เป็นสาเหตุให้ BOE ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นโยบาย 0.50% สู่ระดับ 1.759% รวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการที่จีนใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุม การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยล่าสุดจีนสั่งล็อกดาวน์เมืองซานย่า ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสําคัญที่ตั้งอยู่ทาง ตอนใต้ของมณฑลไหหลํา หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เราให้น้ําหนักหุ้นในกลุ่ม Anti-Commodity ตามพอร์ต Core Investment เลือก BGRIM GPSC PTG SUSCO EPG เป็นหุ้นเด่น

ข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติ 8-1 ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่ระดับ 1.75% ตามคาด ในการประชุมในช่วงคําตามเวลาประเทศ เป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 27 ปีของ BoE หรือนับตั้งแต่ปี 2538,ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ เป็นการ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 6 ของ BoE นับตั้งแต่ ธ.ค. 2564 ส่งผลให้ขณะนี้อัตราดอกเบี้ย นโยบายแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2551 ทั้งนี้ เงินเฟ้อในอังกฤษ ในเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 9.4% เป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี / กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐฯ ในเดือน มิ.ย. ลดลง 6.2% สู่ระดับ 7.961 หมื่นล้านเหรียญ ด้านการนําเข้าลดลง 0.39% สู่ระดับ 3.404 แสนล้าน เหรียญ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 1.7% สู่ระดับ 2.608 แสนล้านเหรียญ ทําให้ตั้งแต่ต้นปี 2565 สหรัฐฯ ขาด ดุลการค้ามากที่สุดต่อประเทศคู่ค้า 5 ชาติ ได้แก่ จีน เม็กซิโก เวียดนาม แคนาดา และญี่ปุ่น / กระทรวง แรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 6,900 ราย สู่ระดับ 260,000 รายใน สัปดาห์ที่ผ่านมา ใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ พ.ย. 2560 นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวสูง กว่า 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ - Earnings Preview: PTT (BK:PTT) Earnings Preview: IT (ซื้อ.ราคาเป้าหมาย 48 บาท) คาดู 2Q65 กําไรสุทธิยังแข็งแกร่ง - คาดกําไรสุทธิ 2Q65 อยู่ที่ 39,405 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5496QoQ และเพิ่มขึ้น 60%YoY/3 ปัจจัยหนุน 2Q65 มาจาก

(1) ธุรกิจก๊าซฯ ที่ได้ประโยชน์จากราคาก๊าซฯ ลดลง และยอดขายภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัว

(2) กําไรจากธุรกิจ E&P ที่แข็งแกร่ง และ

(3) ธุรกิจการกลัน ตามค่าการกลันที่ปรับเพิ่ม แนวโน้ม 3Q65 อ่อนตัว QoQ หลัง ต้นทุนก๊าซฯ เริ่มปรับเพิ่ม ยอดขายก๊าซฯ ลดลง กําไรจากธุรกิจการกลันลดลง และมีค่าใช้จ่ายพิเศษ ประกาศ ขายธุรกิจถ่านหิน คาดสรุปภายในปี 65 เรามองเป็นบวกต่อภาพรวมโครงสร้างธุรกิจในระยะยาว ยังมีแรง กดดันเล็กน้อย จากการขอความช่วยเหลือจากภาครัฐฯ เหมาะกับการลงทุนระยะยาว แนะนํา “ซื้อ” ราคา เป้าหมาย 48 บาท

ปัจจัยทางเทคนิค - หุ้นแนะนําทางเทคนิค ได้แก่ G SISB (แนวต้าน 14.1-14.4/ แนวรับ 13.4-13.2/ Stop loss 12.8) G SCM (แนวต้าน 6.45-6.55 / แนวรับ 6.25-6.15/Stop loss 6.00) G AUCT (แนว ต้าน 8.90-9.10 / แนวรับ 8.50-8.35/Stop loss 8.15)

ดาวน์โหลดแอป

เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก

ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities

เขียนโดย: เบญจพล สุทธิ์วนิช