กราฟเด่นประจำวัน: การที่จีนล้วงข้อมูลจาก Alibaba จะทำหุ้นพังหรือไม่?

 | Aug 16, 2022 13:34

ลองนึกภาพดูว่า ถ้าสูตรลับของ Coca-Cola (NYSE:KO) ถูกปล่อยออกมา ให้คนอื่น ๆ เริ่มขายสูตรโซดาน้ำดำแบบโค้ก แบบนี้จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ Coca-Cola หรือไม่?

บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดของจีนบางแห่งถูกบังคับให้แชร์อัลกอริธึมกับปักกิ่ง ท่ามกลางการปราบปรามการใช้ข้อมูลในทางที่ผิด ซึ่งอาจประนีประนอมกับความลับที่ได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนา หลายคนมองว่าอัลกอริธึมเหล่านี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้บริษัทเหล่านี้ประสบความสำเร็จ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวเป็นหัวใจสำคัญของความขัดแย้งทางการเมืองทั่วโลก จนถึงตอนนี้ บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในฝั่งตะวันตกยังคงควบคุมดูแลโดยอ้างว่าอัลกอริทึมของพวกเขาเป็นความลับทางการค้า

นอกจากนี้ เศรษฐกิจจีนยังแสดงสัญญาณการชะลอตัวหลังนโยบาย Zero-Covid ยอดค้าปลีก เติบโต 2.7% ต่อปี เกือบครึ่งหนึ่งของการคาดการณ์ 5% และ การผลิตเชิงอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 3.8% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.6% และเดือนล่าสุดที่ 3.9%

PBOC คิดว่าตัวเลขเหล่านี้น่าวิตกและการลดอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ธนาคารกลางรายใหญ่อื่น ๆ กำลังเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้น การเคลื่อนไหวนี้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดหลังจากที่ผู้กำหนดนโยบายต่อต้านการลดต้นทุนการกู้ยืมหลังจากที่เศรษฐกิจของประเทศหยุดชะงักในไตรมาสที่แล้ว ท่ามกลางความเสี่ยงของหนี้สินที่เพิ่มขึ้น เงินเฟ้อของผู้บริโภค และแรงกดดันต่อค่าเงิน

Softbank (TYO:9984) ยังแสดงให้เห็นว่าไม่มีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจจีนและขายหุ้นของ Alibaba (NYSE:BABA) ออกไป โดยลดสัดส่วนการถือหุ้นจาก 23.6% เป็น 14.6% การขายกิจการครั้งนี้มีความสำคัญ เมื่อพิจารณาว่า มาซาโยชิ ซัน CEO ของ SoftBank ซึ่งเชียร์เศรษฐกิจจีนว่าเป็นตลาดกระทิงมาโดยตลอด ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ทำให้ตลาดตื่นตัว

นักลงทุนสถาบันอีกรายที่ทิ้งอาลีบาบาคือ Bridgewater Associates ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่น่าสนใจคือ Bridgewater ถือหุ้นใน Amazon (NASDAQ:AMZN), Meta Platforms (NASDAQ:META) และ Alphabet (NASDAQ:GOOGL)— บริษัทที่สามารถเก็บอัลกอริทึมไว้เป็นความลับได้

ดาวน์โหลดแอป
เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก
ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้