ตลาดกระทิงของ S&P 500 วิ่งขึ้นไม่หยุด เทรดเดอร์ควรใช้กลยุทธ์ Dip-Buying

หุ้นฟิวเจอร์สของสหรัฐฯ มีแนวโน้มเปิดตลาดแบบทรงตัวในวอลล์สตรีท ขณะที่ตลาดกำลังจะเข้าสู่วันซื้อขายสุดท้ายของไตรมาสแรกและก่อนวันหยุดยาวในสหรัฐฯ

หลังจากไตรมาสที่แข็งแกร่งของตลาดสหรัฐฯ เราอาจเห็นการพุ่งขึ้นอีกอย่างน้อยหนึ่งครั้ง แม้ความกังวลเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าที่เกินขอบเขตจะยังคงมีอยู่ก็ตาม

ตลาดอยู่ในภาวะกระทิง และกลยุทธ์การซื้อแบบ dip-buying ยังคงได้รับความนิยมมากกว่าตลาดหมีจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในกราฟ

เทรดเดอร์ให้ความสนใจกับอะไรในวันนี้

ความคิดเห็นเชิง hawkish จากนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ของเฟดช่วยสนับสนุน เงินดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าสร้างแรงกดดันให้กับดัชนีฟิวเจอร์ส

ตัวอย่างเช่น EUR/USD ที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ตอนเปิดตลาดยุโรป และเป็นสกุลเงินเดียวที่ยังได้รับผลกระทบจากข้อมูลที่อ่อนแอของเยอรมันอีกด้วย

ทางด้านอเมริกา นักลงทุนจะต้องจับตารายงาน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ของรัฐมิชิแกนและข้อมูล จำนวนสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ประจำสัปดาห์ ซึ่งตัวเลขสวัสดิการว่างงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 212,000 กว่า ๆ จาก 212,000 ก่อนหน้านี้

S&P 500 จะยังมีผลการดำเนินงานที่ดีต่อไปได้หรือไม่

คุณไม่สามารถเถียงได้เลยเมื่อดูจากแนวโน้มที่แข็งแกร่งในขณะนี้และการขาดปัจจัยขาลงที่สำคัญ

แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีความเสี่ยงในช่วงวันหยุดยาว เพราะมีเหตุการณ์สำคัญถึงสองอย่างเกิดขึ้นในวันศุกร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อทิศทางของราคาในระยะสั้น

เหตุการณ์สำคัญของสัปดาห์อาจเกิดขึ้นได้ในวันศุกร์ เมื่อรายงาน ดัชนีราคา PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของเฟด ได้เปิดเผยออกมา

แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปิดทำการในช่วงวันหยุด Good Friday ซึ่งหมายความว่าเราอาจเห็นผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่เพราะข้อมูล PCE ในงาน Asian Open ในสัปดาห์หน้าแทน

ยิ่งไปกว่านั้น เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดก็จะมีการขึ้นกล่าวปราศรัยในวันศุกร์ด้วย เหตุการณ์เหล่านี้อาจทำให้ตลาดมีความเข้าใจเพิ่มเติมถึงความตั้งใจของเฟดเกี่ยวกับปารปรับอัตราดอกเบี้ย

การปิดทำการของตลาดหุ้นในวัน Good Friday หมายความว่านักลงทุนจะต้องคำนึงถึงความเสี่ยงในช่วงวันหยุดยาวในวันนี้ ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ที่เราอาจได้เห็นข้อมูลเงินเฟ้อที่ร้อนแรงเกินคาด

นอกจากนี้ตลาดคาดว่าจะมีความผันผวนที่เกี่ยวข้องกับการปรับฐาน หลังจากสิ้นสุดไตรมาสที่แข็งแกร่ง

หุ้นพุ่งขึ้นในช่วงสามเดือนแรกของปี ต้องขอบคุณแรงขับเคลื่อนจาก AI และความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้

S&P 500 ปรับตัวขึ้นประมาณ 25% นับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม ทำให้เกิดความกังวลขึ้นว่าตำแหน่งอาจอยู่สูงเกินไปและมีความเสี่ยงที่จะเกิดการเทขายทำกำไรในระยะสั้น

การวิเคราะห์ทางเทคนิคของ SPY และแนวคิดทางการค้า

กราฟของ SPY ซึ่งเคลื่อนไหวตาม S&P 500 ยังคงมีแนวโน้มกระทิงเนื่องจากยังคงอยู่ในช่องขาขึ้นอยู่หลายเดือนพร้อมการพลิกกลับที่ตื้นเขิน

นับตั้งแต่แตะระดับต่ำสุดในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ดัชนีโดยรวมของหุ้นที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ได้บรรลุจุดสูงสุดและต่ำสุดอย่างต่อเนื่อง ผลักดัน SPY ให้อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ในตอนนี้ ไม่มีการขยับลงเลยแม้แต่น้อยที่ 2% ซึ่งแสดงให้ถึงการเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง เนื่องจากแนวโน้มเป็นขาขึ้น จึงไม่มีประเด็นมากนักในการพยายามเลือกจุดสูงสุดจนกว่ากราฟจะบอกเราว่าแนวโน้มขาขึ้นนั้นสิ้นสุดลงแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น RSI ยังไม่ถึงระดับที่มีการซื้อมากจนเกินไป ทุกครั้งที่ราคาเพิ่มขึ้นเหนือเกณฑ์ที่ 70 มันจะแก้ไขเงื่อนไขการซื้อมากเกินไปผ่านการควบรวมกิจการ แทนที่จะขายออก ดังนั้นกลยุทธ์การซื้อแบบ dip-buying จึงเป็นกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์ควรให้ความสนใจต่อไปจนกว่าแนวโน้มจะเปลี่ยนไปสู่ตลาดหมี

ด้วยเหตุนี้ ให้จับตาดูแนวรับที่ระดับ 518 ตราบใดที่ยังเป็นเช่นนี้ ภาวะกระทิงก็จะสดใส แม้ว่าดัชนีจะลดลงก่อนวันหยุดยาวเล็กน้อยก็ตาม บริเวณ 518 ยังเป็นระดับแนวรับที่สามารถเปลี่ยนแปลงแนวต้านด้วย

ที่ด้านบน แนวต้านมีไม่มากนักเนื่องจากเราแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า สภาพคล่องเหนือระดับสูงสุดตลอดกาลก่อนหน้านี้ที่ 524.11 ถือเป็นเป้าหมายระยะสั้นถัดไปสำหรับตลาดกระทิง ตามมาด้วยระดับต่อไปที่ 530

***

และที่ขาดไม่ได้เลยคือ InvestingPro ของเรา เพื่อให้ได้การลงทุนที่สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดและความคาดหวังของคุณ เช่นเดียวกับการลงทุนอื่น ๆ การค้นคว้าข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญ

InvestingPro ช่วยให้คุณมีข้อมูลในการตัดสินใจและวิเคราะห์หุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอย่างครอบคลุม มีศักยภาพในการทำกำไรได้อย่างมีนัยสำคัญ

OAPRO2 ที่หน้าชำระเงิน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ถือเป็นการชักชวน นำเสนอ หรือคำแนะนำในการลงทุน เนื่องจากไม่มีเจตนาที่จะจูงใจในการซื้อสินทรัพย์ในทางใดทางหนึ่ง การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน