แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อาจมาจากทองคำก็เป็นได้

 | Feb 25, 2019 15:19

ขณะที่ทุกสายตาคงจะกำลังจับจ้องการเด้งกลับขึ้นมาของราคาหุ้นฝั่งสหรัฐฯ หรือการแกว่งรายวันของราคาเงินปอนด์ น้อยคนที่จะให้ความสนใจต่อกระแสการซื้อทองคำที่สะสมแรงซื้ออย่างเงียบ ๆ ราคาทองเพิ่มขึ้นราว 15.9% ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ในแรงซื้อที่เกือบพุ่งขึ้นเป็นเส้นแนวตั้ง และกำลังขึ้นไปสู่ระดับราคาที่อาจทะลุราคาสูงสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา

มีเหตุผลหลายประการว่าทำไมจึงมีการเสนอซื้อทองมากขึ้น และเหตุผลดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดิ่งลงของเงินคริปโตเลยด้วยซ้ำ เป็นเวลาปีกว่าแล้วตั้งแต่ช่วงขาลงครั้งใหญ่ของ Bitcoin และสินทรัพย์ตระกูลคริปโตอื่น ๆ ที่มูลค่าของบางสกุลเงินลดลงไปถึง 99% แม้ว่า Bitcoin ยังพอมีแรงสนับสนุนและคงระดับราคาไว้ที่ 3,000 เหรียญสหรัฐฯ ได้ แต่ความเชื่อมั่นในสกุลเงินฐานะ "ทองแห่งยุคดิจิตอล" นั้นถูกทำลายจนเกินเยียวยาไปเสียแล้ว

ดาวน์โหลดแอป
เข้าร่วมกับคนนับล้านที่ใช้ Investing.com เพื่อติดตามข่าวสารตลาดการเงินทั่วโลก
ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

เหล่านักลงทุนที่พากันแห่ซื้อเงินคริปโตเพียงเพื่อหวังที่จะสร้างสินทรัพย์รูปแบบใหม่เพื่อความปลอดภัยชั่วคราวนั้น ต่างก็ต้องพบกับความผิดหวังต่อปัญหากลโกง การโจรกรรม อีกทั้งการขาดประสิทธิภาพซึ่งเห็นได้จากเหตุการณ์ที่ตลาดหุ้นทำกุญแจหาย ส่งผลให้เงินที่ลงทุนไปนั้นสูญเปล่า ฉะนั้นเมื่อเทียบกับความไม่โปร่งใสและขาดประสิทธิภาพของเงินคริปโต ความน่าดึงดูดใจของทองที่มีมาตลอดทุกยุค และทำหน้าที่เป็นช่องทางการลงทุนที่ปลอดภัยมากว่า 5,000 ปีมาแล้ว จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนอีกครั้ง

อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทองดูน่าสนใจขึ้นในปัจจุบัน คืออัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงซึ่งดิ่งลงเมื่อระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากทองไม่มีผลตอบแทน จึงมักประสบปัญหาเมื่อมีการปรับอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรที่แท้จริงเพิ่มขึ้นจากเงินเฟ้อ แต่ในทางกลับกันนักลงทุนก็จะเริ่มสนใจทองมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงกำลังลดลงหรือคงอยู่ในระดับต่ำ โดยตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2018 อัตราดอกเบี้ยของ พันธบัตรสหรัฐฯ แบบอายุสิบปี ลดลงกว่า 65 หน่วยอัตราผลตอบแทน (bp) เมื่อธนาคารกลางกลุ่ม G-11 ที่นำกลุ่มโดยเฟดได้พักการปรับนโยบายเพื่อกลับสู่สภาวะปกติออกไป อันเนื่องมาจากความหวาดกลัวตลาดการเงินที่รุนแรงในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัวจากความตึงเครียดในสถานการณ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน

ธนาคารกลางกลุ่ม G-11 ต่างก็ยืนกรานที่จะเป็นกลางโดยมีธนาคารกลางบางแห่งเท่านั้นที่แย้มว่าอาจพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่สงครามเย็นทางการค้าอาจไม่เลวร้ายอย่างที่คิดและมีแนวโน้มที่สหรัฐฯ-จีนจะเป็นพันธมิตรต่อกันได้ แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะเด้งกลับขึ้นมาในเร็ววันหรือไม่ โดยเฉพาะในฝั่งยุโรปที่ภาวะวิกฤตมาจากเศรษฐกิจของอิตาลีที่กำลังถดถอยและกำลังกดดันให้อัตราดอกเบี้ยลดต่ำลง เห็นได้จาก พันธบัตรแบบอายุสิบปี ของเยอรมันที่ซื้อขายด้วยอัตราเพียง 10 หน่วย (bp)

ในปัจจุบัน ทองมีปริมาณการถือครองโดยผู้บริหารสินทรัพย์จากทั่วโลกรวมกันเพียง 2% จากปริมาณสินทรัพย์ทั้งหมด ซึ่งถือว่าขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับอดีตที่แนะนำให้บริหารสินทรัพย์ในทองโดยเฉลี่ย 5% แม้ว่าจะเป็นการเก็งกำไรในระยะสั้น แรงกระตุ้นในการซื้อทองนั้นยังไม่ถึงภาวะเคลิบเคลิ้ม (euphoria) เสียด้วยซ้ำ โดยข้อเท็จจริงแล้ว การเก็งกำไรในระยะยาวสุทธิตามข้อมูลล่าสุดจากรายงานสถานะการถือครองสัญญาของนักลงทุน แสดงให้เห็นว่าการซื้อสัญญาเพื่อการเก็งกำไรในระยะยาวนั้นมีปริมาณน้อยกว่าครั้งก่อนที่ราคาทองอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน ลักษณะการถือครองสัญญาจึงดูเหมือนว่าราคาทองจะทะยานขึ้นไปอีก