Investing.com | Jun 06, 2019 07:24
ปัจจุบันนักลงทุนยังคงมีมุมมองที่ไม่สอดคล้องกับข้อมูลปัจจัยพื้นฐานของตลาดน้ำมัน เนื่องจากข้อมูลพื้นฐานและปัจจัยทางด้านภูมิศาสตร์การเมืองชี้ว่าราคาน่าจะมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หรืออย่างน้อยก็ควรที่จะยังทรงตัวอยู่กับที่ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ราคาในตลาดกลับปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก
การซื้อขายในช่วง 2 สัปดาห์เศษที่ผ่านมาจะเห็นว่าราคา น้ำมัน ปรับตัวลดลงเนื่องจากปัจจัยของความกังวลทางด้านเศรษฐกิจโลกเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ข้อมูลปัจจัยพื้นฐานและภูมิศาสตร์การเมืองไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
h2 ระหว่างความรู้สึกกับการคาดการณ์/h2ความไม่สอดคล้องกันระหว่างข้อมูลปัจจัยพื้นฐานกับมุมมองของนักลงทุนงั้นสามารถสังเกตเห็นได้จากผลสำรวจจากหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ในการพยากรณ์ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งพบว่าธนาคารเชื่อว่าราคาเฉลี่ยของน้ำมันดิบเบรนท์ในปี 2019 จะอยู่ที่ $69.73
นำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลจริงจะพบว่าราคาดังกล่าวสูงกว่าราคาของเที่ยงวันพุธอยู่ประมาณเกือบ $10 โดยตัวเลขการพยากรณ์นี้ได้มาจากข้อมูลทางด้านปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก ซึ่งชี้ว่าราคาน้ำมันจะมีการปรับตัวสูงขึ้นได้พอสมควร ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ควรจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่มากกว่า $70 ต่อบาร์เรลในช่วงนี้ไปจนถึงสิ้นปีหากการพยากรณ์ถูกต้อง
ปัจจุบันผู้ผลิตน้ำมันรายหลักยังคงปรับลดการผลิต แต่ความรู้สึกของนักลงทุนในตลาดกลับไม่เป็นไปตามข้อมูลปัจจัยพื้นฐานเช่นนั้น เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจกับปัญหาเศรษฐกิจในมุมกว้างอย่างเช่นการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกหรือสงครามการค้าในขณะนี้มากกว่า จากบทความหนึ่งของหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ระบุว่า นักวิเคราะห์ของธนาคารคิดว่านักลงทุนจะไม่สนใจในสภาวะเศรษฐกิจมุมกว้างในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปี 2019 นี้อีกต่อไป แม้ว่าปัจจัยดังกล่าวจะเป็นปัญหาหลักที่เกิดขึ้นตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
h3 เหตุใดราคาน้ำมันจึงไม่เพิ่มขึ้น?/h3เมื่อพิจารณาตามตัวเลขที่พยากรณ์ไว้ ราคาน้ำมันควรจะปรับตัวสูงขึ้นกว่าเดิม การที่สหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรกับ กำลังการผลิตน้ำมัน ลดลงเหลือเพียง 10.87 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งนับเป็นปริมาณการผลิตที่ต่ำที่สุดที่รัสเซียเคยรายงานตั้งแต่กลางปี 2016 เป็นต้นมา
เมื่อพิจารณาจากปัจจัยทั้งหมดแล้ว ปัญหาในด้านการผลิตน่าจะกลับกันราคาน้ำมันให้เพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น จึงยังคงไม่แน่ชัดว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2019 ราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปัญหาดังกล่าวหรือจะยังปรับตัวไปในทิศทางตรงกันข้ามตามความรู้สึกของตลาดเหมือนในขณะนี้ต่อไป ดูเหมือนว่าปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งปัญหาการขาดแคลนน้ำมันจากคาซัคสถานและรัสเซียนั้นจะได้รับการแก้ไขในเร็ววันนี้ ซึ่งน่าจะทำให้ราคาน้ำมันไม่สูงขึ้นไปอีก
h3 การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจมหภาคอาจส่งผลกับราคาน้ำมัน/h3ในขณะนี้ไม่น่าจะมีปัจจัยที่เป็นแรงผลักดันให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นได้อีกเว้นเสียแต่ปัญหาที่มีอยู่เดิมในขณะนี้ ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่จะส่งผลกระทบได้อาจเป็นเรื่องสงครามอ่าวเปอร์เซีย ภัยพิบัติทางธรรมชาติร้ายแรงในพื้นที่การผลิตน้ำมัน หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงด้านอุปสงค์หรืออุปทานอย่างรุนแรงเท่านั้น
แต่ปัญหาเดิมในเรื่องการคว่ำบาตร ปัญหาในเวเนซุเอลา หรือปริมาณการผลิตที่มีอยู่อย่างจำกัดก็ยังคงมีอยู่ แม้ว่าปัจจัยดังกล่าวจะไม่ช่วยพยุงหรือทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในตอนนี้ แต่จะทำให้ช่วงครึ่งหลังของปีนี้มีราคาที่สูงขึ้นได้หรือไม่?
ในทางกลับกัน ปัญหาต่างๆที่เป็นตัวผลักดันให้ราคาน้ำมันลดลงในตอนนี้หรือในอนาคตนั้นยังไม่น่าที่จะได้รับการแก้ไขได้ในเร็ววันนี้ มิหนำซ้ำยังอาจแย่ลงกว่าเดิม สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังคงเป็นปัจจัยหลัก โดยทุกครั้งที่มีการประกาศใช้ภาษีใหม่ ราคาน้ำมันก็จะปรับตัวลดลง การเจรจาทางการค้ายังไม่มีทีท่าว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในวันนี้ แต่ก็อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
ในขณะนี้เรายังไม่ทราบว่าปัญหาดังกล่าวจะได้รับการแก้ไขหรือไม่และจะใช้เวลานานอีกเท่าใด ยังคงมีความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสีจะบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ก่อนปี 2020 ซึ่งยังพอมีเวลาให้น้ำมันปรับตัวขึ้นไปอยู่ใกล้ในระดับเฉลี่ยที่ $70 ได้ แต่ก็มีความเป็นไปได้อีกเช่นกันที่สถานการณ์จะแย่ลง รวมทั้งราคาน้ำมันอาจดิ่งลงไปมากกว่านี้ก็ได้
ในปัจจุบันตลาดให้ความสนใจกับตัวชี้วัดทางด้านเศรษฐกิจค่อนข้างมากซึ่งปัจจุบันยังคงชี้ว่าอยู่ในช่วงชะลอตัว นักลงทุนในด้านน้ำมันยังคงยึดติดกับตัวเลขที่แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวนี้อยู่ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีการให้ความสนใจกับ ในช่วงนี้ ส่วนทางด้านหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal รายงานว่าสถาบันทางการเงินต่างๆ ก็จะยังคงทำการพยากรณ์ราคาเฉลี่ยน้ำมันต่อไปในปี 2020
การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา