การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ ชั่วคราวส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างไร

การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ ชั่วคราวส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างไร

อินไซด์ Investing  | Apr 12, 2019 05:50

การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ ชั่วคราวส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างไร

การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐชั่วคราวที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ได้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 22 ธันวาคม 2018 - 25 มกราคม 2019 ซึ่งกินเวลาถึง 35 วันและเป็นการปิดทำการครั้งที่สองระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์สาเหตุหลักสำหรับการปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐคือความไม่ลงรอยกันระหว่างทรัมป์กับฝ่ายค้านของเขาเกี่ยวกับงบมูลค่า 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการสร้างกำแพงกั้นชายแดนทางตอนใต้ของประเทศ

การปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลคืออะไรและเหตุใดจึงเกิดขึ้น?

การปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลในทางการเมืองของสหรัฐอเมริกาหมายถึงระยะเวลาของช่องว่างการจัดหาเงินทุนที่ทำให้เกิดปัญหาการปิดทำการทั้งหมดหรือในบางส่วนของหน่วยงานรัฐบาลและการปฏิบัติการของรัฐบาลกลางปัญหาการปิดทำการนี้จะเกิดขึ้นเมื่อรัฐสภาไม่ผ่านกฎหมายอนุมัติงบสนับสนุนแก่รัฐบาลสำหรับปีงบประมาณถัดไปและ/หรือสำหรับการจัดสรรงบประมาณชั่วคราวโดยหลักๆมักเกิดขึ้นเมื่อมีสถานการณ์ความเห็นขัดแย้งกันในข้อเสนอของการใช้จ่ายที่รัฐบาลเสนอ” (ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย)

ตลาดมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐ

ตามข้อมูลจากสำนักงบประมาณแห่งรัฐสภาของสหรัฐ (U.S. Congressional Budget Office) การปิดทำการของรัฐบาลครั้งล่าสุดทำให้สหรัฐฯ สูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจคิดเป็น 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับค่าใช้จ่ายโดยตรง แต่เรายังสงสัยว่าตลาดตอบสนองต่อเหตุการณ์นี้อย่างไร หากคุณต้องการวัดค่าผลกระทบ เราเข้าไปสำรวจ ข้อมูลย้อนหลัง ของ 7 ดัชนีหลัก ๆ ของโลก พันธบัตรรัฐบาลที่สำคัญ และตัวเลขเหล่านี้น่าสนใจมาก ในระหว่างการปิดทำการของรัฐบาล ดัชนีแต่ละตัวและทุกตัวที่เราวัดมีมูลค่าสูงขึ้น ตั้งแต่ประมาณ 2% ถึงกว่า 15% ในขณะที่พันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐอเมริกามีมูลค่าลดลงประมาณ 1% (ยกเว้นเพียงหนึ่งพันธบัตร)

พันธบัตรรัฐบาล - เกิดอะไรขึ้น?

เราศึกษา 4 พันธบัตรหลัก ๆ ได้แก่ - พันธบัตรที่มีอายุ 1, 5, 10, และ 30 ปี US 1Y ร่วงลง 1.44%, US 5Y ร่วงลง 1.48%, US 10Y ร่วงลง 1.04% และที่น่าสนใจคือพันธบัตร US 30Y พุ่งขึ้น 1.19%. เหตุผลที่อาจเป็นไปได้ไม่ใช่มาจากการปิดทำการของรัฐบาล ตามความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ของเรา เคลมองต์ ธิโบลท์ (Clement Thibault) ระบุไว้ว่า: “การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดโดยทั่วไปจะมีผลกระทบอย่างไม่พึงประสงค์ต่อพันธบัตรของรัฐบาล”

ดัชนี - เกิดอะไรขึ้น?

ดัชนีขยับสวนทางกันกับพันธบัตรรัฐบาล โดยดัชนีที่เราทำการศึกษามีค่าสูงขึ้น ไล่ไปตั้งแต่ FTSE 100 พุ่งขึ้น 1.84% ตามมาด้วยดัชนี Nikkei 225 ปรับขึ้น 3.01% ดัชนี DAX และ Euro Stoxx 50 ทั้งสองดัชนีสูงขึ้น 6.09% และ 6.37% ตามลำดับ สำหรับในส่วนของดัชนีของสหรัฐ การเปลี่ยนแปลงนี้ถือว่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก - ดัชนี S&P 500 และดัชนี Dow ทั้งสองดัชนีพุ่งสูงขึ้น 13.34% และ 13.51% และดัชนี NASDAQ ทะยานขึ้น 15.69% เคลมองต์แนะว่า “ตลาดรู้ดีว่าบริษัทเอกชนต่างๆสามารถดำเนินธุรกิจได้อยู่แล้วแม้ปราศจากรัฐบาลกลางก็ตามสำหรับส่วนโดยรวมสถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้มีผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใดดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก”

เราเรียนรู้อะไรบ้าง

แม้ว่ายังไม่สามารถสรุปผลได้อย่างเบ็ดเสร็จ แต่สิ่งสำคัญที่เราสังเกตเห็นได้ คือ การปิดทำการของรัฐบาลสามารถผลักดันให้ตลาดพุ่งสูงขึ้นได้ คุณมีประเด็นความคิดที่สำคัญอื่นหรือไม่? โปรดแบ่งปันกับเราได้ในส่วนการแสดงความคิดเห็นด้านล่างนี้

การปฏิเสธความรับผิด: โพสต์นี้ไม่ควรถือว่าเป็นคำแนะนำการลงทุนหรือคำแนะนำการรับรองรับประกันแต่อย่างใดคุณควรตรวจสอบก่อนการลงทุนในสินทรัพย์หรือหมวดหมู่สินทรัพย์ใดๆก่อน

เป็นคนแรกที่แสดงความคิดเห็นบน

เพิ่มคอมเม้นท์
กรุณารอสักครู่ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นอีกครั้ง
คำอภิปราย
เขียนคำตอบกลับ
กรุณารอสักครู่ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นอีกครั้ง

การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา

ลงชื่อออก
คุณแน่ใจหรือว่าต้องการลงชื่อออกจากระบบ?
ไม่ ใช่
ยกเลิกใช่
บันทึกการเปลี่ยนแปลง