รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

“เมื่ออเมริกากับจีนทะเลาะกัน”

เผยแพร่ 06/06/2562 16:05
อัพเดท 09/07/2566 17:32

ประเทศไทยโชคดีที่มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอย่างแน่นแฟ้นกับสองมหาอำนาจ อันดับหนึ่งคืออเมริกาและอันดับสองคือจีน คาดว่าอีกประมาณ 12 ปีเศรษฐกิจจีนจะโตแซงอเมริกา การสลับอันดับแชมป์ไม่กระทบไทยมากเพราะอย่างไรก็ตามไทยก็จะได้ประโยชน์จากสองมหาอำนาจต่อไป สินค้าและการบริการของไทยเป็นสิ่งที่เรามั่นใจว่าผู้บริโภคทั้งสองประเทศจะยังคงมีความต้องการและให้ความเชื่อถือเสมอ

การเผชิญหน้าหรือสงครามเศรษฐกิจที่กำลังเป็นข่าวใหญ่และเริ่มสร้างความปั่นป่วนให้กับเศรษฐกิจทั่วโลกเป็นสิ่งเตือนให้ทุกฝ่ายต้องปรับตัว เมื่อเกิดขึ้นครั้งนี้ได้ก็อาจจะเกิดขึ้นอีก ถึงแม้สถานการณ์จะคลี่คลายก็ไม่ควรชะล่าใจ เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นสัญญาณเตือนให้ทุกฝ่ายต้องเตรียมตัวเพื่อครั้งหน้า

ดีใจที่เห็นคนไทยรุ่นใหม่หลายท่านเริ่มอ่านทิศทางลมออก จากเดิมที่มักมุ่งจับผู้บริโภคตะวันตกซึ่งใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก กลับมาเพิ่มสินค้าและการบริการที่มีภาษาจีนกลางด้วย บุคลากรในสถานบริการต่างๆเริ่มการฝึกฝนทั้งสองภาษาควบคู่กัน นอกจากในกรุงเทพแล้วหลายจังหวัดได้ตื่นตัวมีโรงเรียนที่สอนภาษาอังกฤษและจีนกลาง ผู้ค้าขายทั่วไปก็เริ่มมีความเชี่ยวชาญการสนทนาภาษาที่ใช้ประโยชน์จริงมากขึ้น

ตัวแปรที่สำคัญซึ่งคาดว่าอีกประมาณ 2-5 ปีคงจะเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างที่เราตั้งตัวแทบไม่ติด นั่นคือการก้าวกระโดดของเทคโนโลยีสื่อสารที่มักจะมีการใช้คำว่า “5G”

5G เป็นระบบของการสื่อสารทางดิจิตอลที่เพิ่มสมรรถนะสูงกว่ามาตรฐาน 4G ในปัจจุบันเกิน 20 เท่า ความเร็วและปริมาณของข้อมูลที่เพิ่มขึ้นจะกระทบชีวิตประจำวันแทบทุกด้าน ตั้งแต่ตื่นจนถึงเข้านอน การศึกษาค้นคว้า การแพทย์การพยาบาล การซื้อขาย การประกอบอาชีพ งานอดิเรก กีฬาและสังคมต่างๆจะโดนบังคับให้เปลี่ยนหมด

ยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจใกล้เราก็คือจีนซึ่งมีแนวโน้มค่อนข้างแน่นอนว่าจะเป็นผู้นำของโลกทางด้านเทคโนโลยีสื่อสารเนื่องจากได้ลงทุนวิจัยและพัฒนาด้านนี้มามาก ตัวอย่างที่จะเกิดขึ้นคือรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าแบบไม่ต้องใช้คนขับจะกลายเป็นพาหนะสามัญในภูมิภาคเอเชีย การเงินการธนาคารซื้อขายแลกเปลี่ยนต่างๆต้องรื้อฟื้นใหม่หมดและผู้บริโภคจะตอบสนองกับความเร็วและปริมาณการสื่อสารแบบใหม่และจะกดดันให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวทุกด้าน

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อกับจีนและอาจโยงทั้งภูมิภาคไปต่อกับอินเดียด้วย การคมนาคมทางอากาศและทางนำ้ยุคใหม่จะเปิดช่องทางการทำมาหากินและการแข่งขันกว้างไกลและยุติธรรมมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ปริมาณผู้บริโภคซึ่งอยู่ในรัศมีบินไม่เกิน 6 ชั่วโมงจากประเทศไทยนั้นมีจำนวนเกินค่อนโลก การวางแผนธุรกิจและการลงทุนแบบปัจจุบันคงจะเริ่มจางหายไปและสมรรถนะใหม่ 5G จะเป็นโจทย์ที่ทุกคนต้องเฉลยให้ทันสถานการณ์

ส่วนยักษ์ใหญ่ที่อยู่ไกลคือสหรัฐอเมริกาก็คงปรับตัวได้และจะยังมีอิทธิพลครองตำแหน่งผู้นำทางเศรษฐกิจและสังคมของโลกระดับต้นๆต่อไป อเมริกาสร้างมาตรฐานโลกไว้หลายอย่างและแพร่หลายวิธีเป็นเวลาหลายทศวรรษ ความเป็นอเมริกันจึงเป็นที่ยอมรับและนิยมแพร่หลาย ลูกหลานของชาวโลกที่เข้าไปศึกษาหรือประกอบอาชีพอยู่ในสหรัฐก็คงสามารถสานต่อเศรษฐกิจให้มั่นคงต่อไปและจะเป็นตัวถ่วงดุลย์กับมหาอำนาจดาวรุ่งทั้งจีนและอินเดีย

กรณีบริษัท Huawei Technologies จากจีนซึ่งกำลังเจอลมพายุจากรัฐบาลทรัมพ์โดยการสั่งห้ามหลายบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของอเมริกาให้ยกเลิกสัญญาและใบอนุญาตต่างๆรวมทั้งการงดใช้ระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ของบริษัท Google โดยอ้างว่าHuaweiเป็นเครื่องมือของรัฐบาลจีนในการแทรกแซงและเป็นภัยต่อความมั่นคงของอเมริกาและพันธมิตรทั้งที่จริงแล้วรัฐบาลอเมริกันชุดนี้มีจุดประสงค์หลักคือต้องการขัดขาให้Huaweiสดุดและเดินช้าหน่อยเพราะเกรงว่าจีนจะนำลิ่วเรื่อง 5G ซึ่งจะส่งผลข้างเคียงเป็นการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการทหารและเศรษฐกิจแทบทุกอุตสาหกรรม

การปะทะกันระหว่างสองมหาอำนาจครั้งนี้คงจะยืดเยื้อสร้างความเสียหายไปอย่างน้อยถึงเดือนพฤศจิกายนปี ค.ศ. 2020 ซึ่งจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีของอเมริกา จีนเริ่มแสดงท่าทีออกชัดเจนในการกดดันประธานาธิบดีทรัมพ์โดยการงดซื้อสินค้าเกษตรกรรมจากมลรัฐที่คะแนนเสียงสำคัญมากในการเลือกตั้งครั้งหน้า การลงทุนภาคเอกชนรวมทั้งตลาดหุ้นในอเมริกาก็เริ่มระส่ำระสาย ไม่มีการวิเคราะห์แนวโน้มของบริษัทมหาชนโดยใช้หลักการเหมือนปกติเพราะกระแสลมการเมืองมาแรง การทะเลาะกันครั้งนี้น่าเป็นห่วงแต่เราทุกคนก็ต้องพยายามทำใจหนักแน่นและกระจายความเสี่ยงออกไป ท่านควรเลี่ยงการลงทุนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการค้าระหว่างอเมริกากับจีน รออ่านทิศทางลมและปรับเปลี่ยนตัวเราไปตามนั้นครับ

บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ของสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) ThaiVI.org

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย