รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

สินค้าโภคภัณฑ์สัปดาห์นี้: ราคาน้ำมันจะดีขึ้นได้อีกไหม? ส่วนทองคำยังคงต้องรอฟังเฟด

เผยแพร่ 17/06/2562 14:26
อัพเดท 02/09/2563 13:05

ไม่ว่าจะเป็นอัตราเบี้ยประกันภัยเรือบรรทุกน้ำมันที่สูงขึ้นมาก ความต้องการใช้น้ำมันดิบที่ลดลง การประชุมโอเปคที่อาจเลื่อนกำหนดการออกไป รวมทั้งความน่าจะเป็นที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ต่างก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับการตัดสินใจของนักลงทุนด้านน้ำมันในปัจจุบันทั้งสิ้น

การซื้อขายในตลาดน้ำมันไม่ใช่เรื่องง่าย ในอดีตเรามักจะมีปัจจัยที่สามารถนำมาใช้คาดการณ์และสร้างความสมดุลระหว่างข้อมูลในภาพกว้างกับข้อมูลเฉพาะเรื่องและทำให้ราคามีการเคลื่อนไหวไปตามทิศทางแห่งความเชื่อมั่นนั้นได้ แต่การคาดการณ์ดังกล่าวในสถานการณ์ปัจจุบันทำได้ค่อนข้างยาก หลังจากที่เกิดการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันตามที่เป็นข่าวล่าสุด ราคาน้ำมันดิบก็ยังไม่สามารถฟื้นตัวต่อได้

อัตราเบี้ยประกันภัยสำหรับน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

WTI 1-Week Chart - Powered by TradingView

หลังจากที่เกิดเหตุการณ์โจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในอ่าวโอมานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อัตราเบี้ยประกันภัยสำหรับการขนส่งน้ำมันก็ปรับเพิ่มสูงขึ้นมาก S&P Global Platts รายงานว่าบริษัทผู้รับประกันภัยทางทะเลสำหรับการขนส่งน้ำมันได้ปรับเพิ่มเบี้ยประกันขึ้นเป็น 0.4% ของมูลค่าสินค้าซึ่งก่อนหน้านี้มีอัตราสูงสุดเพียง 0.02% เท่านั้น และยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าเบี้ยประกันภัยที่เพิ่มขึ้นนี้จะส่งผลกระทบกับราคาน้ำมันเพียงใด ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาในตลาดเอเชีย ราคา น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสของสหรัฐฯ และราคา น้ำมันดิบเบรนท์ของสหราชอาณาจักร ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย

สำหรับสถานการณ์ในตลาดน้ำมันสัปดาห์นี้ สิ่งที่ยังคลุมเครือที่สุดน่าจะเป็นเรื่องที่นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบียออกมายอมรับเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าสภาวะน้ำมันในตลาดโลกเริ่มมีความอิ่มตัวแล้วจริงๆ แม้ว่าในน้ำเสียงจะยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางด้านปริมาณการผลิตและการก่อการร้ายด้วยก็ตาม

นายฟาลีห์กล่าวเสริมว่า

"ผมมั่นใจว่าท้ายที่สุดแล้วประชาคมโลกจะต้องร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหานี้จนได้ จากนั้นจึงค่อยควบคุมปริมาณการผลิตให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อไป"

โลกมีน้ำมันมากเกินไปแล้วจริงหรือ?

คำพูดของนายฟาลีห์ ผู้เป็นประธานกลุ่มโอเปค คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะทำให้ตลาดน้ำมันฟื้นตัวขึ้นได้โดยเฉพาะกับนักลงทุนที่เชื่อมั่นว่าเขาจะช่วยให้สถานการณ์ราคาน้ำมันดีขึ้น แต่สถานการณ์ที่แท้จริงของปริมาณการผลิตในปัจจุบันเป็นสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจที่จะขยายระยะเวลาการควบคุมปริมาณการผลิตของโอเปคให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อไปอีก เมื่อใดก็ตามที่มีการใช้คำว่า "มากมาย" หรือ "ปลอดภัย" เพื่ออธิบายสถานการณ์ตลาด เมื่อนั้นย่อมไม่เป็นผลดีกับราคาน้ำมัน

นอกจากนี้นายฟาลีห์ก็ได้ทราบถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับการเลื่อนการประชุมโอเปคในช่วงหลายสัปดาห์มานี้ จากเดิมที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 25 มิถุนายนอาจต้องเลื่อนไปเป็นเดือนกรกฎาคมอันเนื่องมาจากการที่รัสเซียไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงของโอเปค ยิ่งการประชุมโอเปคต้องเลื่อนกำหนดออกไปอีกนานเพียงใด ก็จะยิ่งทำให้เชื่อได้มากขึ้นว่าสมาชิกโอเปคและประเทศพันธมิตรน่าจะขยายเวลาการควบคุมปริมาณการผลิตน้ำมันต่อไปเพื่อชดเชยกับปริมาณน้ำมันที่ล้นตลาดตามที่นายฟาลีห์กล่าวไว้

องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) จะตอบโต้มาตรการควบคุมปริมาณน้ำมันหรือไม่?

นายฟาติห์ บิรอล ผู้บริหารองค์การพลังงานระหว่างประเทศประจำกรุงปารีสได้กล่าวหลังการประชุม G20 ซึ่งมีนายฟาลีห์เข้าร่วมด้วยว่า IEA พร้อมที่จะเข้าช่วยเหลือหากพบว่ามีปัญหาเกี่ยวกับปริมาณน้ำมัน

หน้าที่ของนายบิรอลคือการรับผิดชอบและดูแลด้านความต้องการใช้น้ำมันของกลุ่มประเทศประเทศตะวันตก ซึ่งนับว่าเป็นตำแหน่งที่อยู่ตรงกันข้ามกับจุดยืนของกลุ่มโอเปคโดยสิ้นเชิง จึงทำให้ IEA ดูเหมือนเป็นตัวการที่ทำให้ตลาดน้ำมันต้องชะลอตัวอยู่บ่อยครั้ง

กฎของ IEA ระบุไว้ว่าประเทศสมาชิกจะต้องมีปริมาณน้ำมันสำรองที่เพียงพอ โดยให้มีปริมาณสำรองเทียบเท่ากับปริมาณการนำเข้าสุทธิ 90 วันเป็นอย่างน้อย ในกรณีที่เกิดการขาดแคลนน้ำมันอย่างรุนแรง ประเทศสมาชิกสามารถตัดสินใจปล่อยน้ำมันสำรองที่มีเข้าสู่ตลาดได้ โดยสหรัฐฯ ถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่ใช้กลยุทธ์การสำรองน้ำมันแบบนี้

จากรายงานปริมาณความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกของ IEA ที่ประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าตัวเลขที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก หาก IEA ต้องการควบคุมสมดุลของปริมาณการผลิตน้ำมัน ก็จะมีโอกาสน้อยมากที่ตลาดน้ำมันจะฟื้นตัวต่อไปได้ไม่ว่าอัตราเบี้ยประกันภัยการขนส่งจะเป็นเช่นไรก็ตาม

ทองคำยังมีทิศทางที่ดี

สินค้าโภคภัณฑ์เพียงอย่างเดียวที่น่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในช่วงนี้คือทองคำ ซึ่งน่าจะสามารถขึ้นไปแตะระดับทดสอบในสัปดาห์นี้ที่ $1,400 ได้ในช่วงที่มีการคาดการณ์กันว่าจะมี การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

Gold 1-Week Chart - Powered by TradingView

ทั้ง ราคาซื้อขายทองคำ ที่อ้างอิงตามราคาทองคำแท่ง และ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ปรับตัวขึ้นไปแตะแนวต้านที่ระดับ $1,350 ได้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และยังถือว่าเป็นการปรับตัวของราคาทองคำแท่งที่สูงที่สุดในรอบ 14 เดือนอีกด้วย

นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบให้ค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐ ดิ่งลงอย่างรุนแรงแต่จะฉุดให้สินทรัพย์ประเภทอื่นอย่างเช่นทองคำมีราคาเพิ่มสูงขึ้น

CNBC รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าธนาคารกลางอาจเลิกใช้คำว่า "อดทน" ใน แถลงการณ์ประจำเดือนมิถุนายน ที่มีกำหนดจะประกาศให้ทราบในวันพุธนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าธนาคารมีความพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เกิดสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเพื่อให้เศรษฐกิจยังคงขยายตัวได้ต่อไป

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย