ความผันผวนของหุ้นกลุ่มธุรกิจกัญชาจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับเงินคริปโตหรือไม่?

เมื่อย่างเข้าสู่เดือนกรกฎาคม นักลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจกัญชาต่างก็ดีใจที่จะได้ก้าวเข้าสู่เดือนใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังและลืมอดีตอันขมขื่นในช่วงไตรมาสที่แล้วไปเสีย

‘หุ้นกัญชา’ ที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอยู่หลายครั้งในช่วงต้นปีนี้ก็ยังถือว่าเป็นหุ้นในกลุ่มที่ทำผลงานได้แย่ที่สุดกลุ่มหนึ่งของตลาดในไตรมาสที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นอเมริกาหรือแคนาดาก็ตาม เนื่องจากยังคงมีปัจจัยด้านลบอยู่หลายด้าน ทั้งเรื่องยอดขายที่ยังไปไม่เป็นไปตามเป้า ไปจนถึงปัญหาเกี่ยวกับปริมาณการผลิต แล้วแนวโน้มของอุตสาหกรรมใหม่นี้จะอยู่รอดท่ามกลางอุตหสากรรมที่แข็งแกร่งอื่นๆ ได้ต่อไปหรือไม่?

นักลงทุนที่เข้ามาสู่ธุรกิจกัญชาซึ่งคาดหวังว่าจะเห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมนี้น่าจะสามารถเทียบได้กับกลุ่มนักลงทุนที่กระโดดเข้าไปเล่นสกุลเงินคริปโตในช่วงที่ตลาดกำลังมีความหวือหวา ซึ่งปัจจุบันกำลังต้องเผชิญกับความผันผวนจากอัตราดอกเบี้ยใหม่หลังจากที่ราคาปรับตัวเป็นแนวโน้มขาขึ้น

ตลาดที่มั่นคงและกำลังเติบโต

อุตสาหกรรมสองกลุ่มข้างต้นมีข้อแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดอยู่ข้อหนึ่งก็คือเรื่องของระยะเวลา ตลาดกัญชานั้นมีฐานลูกค้าที่ค่อนข้างมั่นคงและพร้อมที่จะขยายตัวขึ้นได้อีกมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกัญชาผ่านการพิจารณาในแคนาดาและทำให้เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการรับประทานที่ ถูกกฎหมาย รวมทั้งเมื่อได้รับอนุญาตทางกฎหมายในสหรัฐฯ ให้ใช้กัญชาเพื่อการ สันทนาการ ได้

แม้ว่าในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาหุ้นของธุรกิจในกลุ่มกัญชาจะปรับตัวลดลงไปบ้าง แต่หุ้นหลายตัวในธุรกิจกลุ่มนี้เริ่มกลับมาทำผลงานได้ดีขึ้นเมื่อพิจารณาจากผลงานเฉพาะในปีนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีความสนใจในหุ้นกลุ่มนี้แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ช่วงนี้อาจจะเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการก้าวลงสู่สนามแล้วก็ได้

ผู้ที่ทำผลงานได้แย่ที่สุดในไตรมาสที่ 2

ในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจทางด้านกัญชา ผู้ที่ทำผลงานได้แย่ที่สุดในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2019 คือหุ้นของ CannTrust Holdings Inc (TSX:TRST), (NYSE:CTST) ซึ่งมีการปรับลดลงไปกว่า 36.5% ในสหรัฐฯ ในช่วงไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน รวมทั้งยังปรับตัวลดลงกว่า 37.5% ในแคนาดาอีกด้วย

ในตลาดหุ้นนิวยอร์ค บริษัทผู้ผลิตกัญชาจากเมืองออนตาริโอแห่งนี้มีมูลค่าหุ้นที่ปรับลดลงไป US$3 ต่อหุ้นในไตรมาสล่าสุดที่เพิ่งผ่านมา โดยปิดตลาดในวันจันทร์อยู่ที่ US$5.12 ในขณะที่ทางฝั่งตลาดหุ้นในโตรอนโตปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก่อนจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดยาวอยู่ที่ C$6.56 โดยปรับลดลงไป C$4 นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายนเป็นต้นมา ซึ่งในขณะนั้นมีราคาอยู่ที่ C$10.54

หุ้นธุรกิจกัญชาอีกตัวที่ถูกถล่มหนักในไตรมาสที่ผ่านมาคือ Aphria Inc (TSX:APHA), (NYSE:APHA) ซึ่งปรับลดลงไปราว 30% ในทั้งสองตลาด รวมทั้ง Tilray Inc (NASDAQ:TLRY) สัญชาติแคนาดาที่ทำการซื้อขายกันเฉพาะในดัชนี Nasdaq ปรับตัวลดลงไปเกือบ 24.5%

หุ้นตัวอื่นๆ ที่ทำผลงานได้แย่ลงเช่นกันคือ Hexo Corp (TSX:HEXO), (NYSE:HEXO), Aurora Cannabis Inc (TSX:ACB), (NYSE:ACB), Cronos Group Inc (TSX:CRON), (NASDAQ:CRON) และ Canopy Growth Corp (TSX:WEED), (NYSE:CGC)

หุ้นของบริษัทสัญชาติแคนาดาอย่าง Hexo Corp. ปรับลดลง 20.5% ในสหรัฐฯ และประมาณ 22.5% ในแคนาดา ในขณะที่หุ้นของ Aurora Cannabis ปรับลดลงเกือบ 15% ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยังลดลงไปต่ำกว่า 16% ในดัชนี S&P และดัชนีคอมโพสิตของแคนาดาในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ส่วนราคาหุ้นของ Cronos Group ก็ปรับลดลงไปมากกว่า 14% ในอเมริกาและน้อยกว่า 16% ในแคนาดาในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา

บริษัท Canopy ยังมีความยืดหยุ่นสูง

แม้ว่าจะเกิดแรงผลักดันให้ตลาดเป็นขาลง แต่ Canopy Growth ก็ยังคงทำผลงานได้ ค่อนข้างดี เมื่อเทียบกับธุรกิจรายอื่น หุ้นของบริษัทผู้ผลิตกัญชารายใหญ่ที่สุดของโลกรายนี้ปรับลดลงไปเพียงประมาณ 4% ในสหรัฐฯ และเกินกว่า 6.5% ไปเพียงเล็กน้อยในแคนาดาในช่วงตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แม้ว่าบริษัทจะมีรายงานผลประกอบการออกมาว่ามีตัวเลขการ ขาดทุน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึงสี่เท่าก็ตาม

มุมมองในภาพรวม

แม้ว่าในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาธุรกิจในกลุ่มนี้จะยังทำผลงานได้ไม่ดีนัก แต่ก็ควรพิจารณาถึงสถานการณ์ในภาพรวมด้วย เนื่องจากหุ้นในธุรกิจกัญชาเกือบทั้งหมดทำผลงานได้ค่อนข้างดีในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2019 และให้ผลตอบแทนที่น่าประทับใจแทบทุกตัว ยกเว้นเพียงแค่ 2 ตัว ข้อมูลต่อไปนี้จะแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นเปอร์เซ็นต์ของหุ้นแต่ละตัวในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้

Aurora Cannabis: +49.2% ในสหรัฐฯ และ +44.7% ในแคนาดา

Cronos Group: +40.9% ในสหรัฐฯ และ +36.4% ในแคนาดา

Canopy Growth: +40.8% ในสหรัฐฯ และ +34.6% ในแคนาดา

Hexo Corp.: +40.36 ในสหรัฐฯ และ +34.16% ในแคนาดา

Aphria: +15.6% ในสหรัฐฯ และ +13% ในแคนาดา

CannTrust Holdings: -2.18% ในสหรัฐฯ และ -7.3 ในแคนาดา

Tilray: -32.4% ในสหรัฐฯ