4 เหตุผลที่คงคำแนะนำ "ซื้อ" 1) ต้นทุนก๊าซธรรมชาติลดลง หนุนต้นทุนการผลิตขวดแก้วลดลงเป็นบวกต่อ GPM 2) ต้นทุนภาษีน้ำตาลรอบใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นใน 4Q62 เตรียมรับมือแล้ว ต้นทุนส่วนอื่นที่ลดลง มากกว่าต้นทุนภาษีที่เพิ่มขึ้น 3) แนวโน้มกำไร 3Q62 สดใสทั้ง QoQ และ YoY จากส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น มีกำลังการผลิต C-Vitt เพิ่มขึ้น 20% และ 4) จะเริ่มส่งออก Energy drink ยังเวียดนามใน 4Q62 และคาดเห็นความชัดเจนการขยายตลาดไปจีนในปี 2563 เป็น Upside risk ต่อประมาณการ
ต้นทุนก๊าซธรรมชาติทำระดับต่ำสุดในรอบ 4 ไตรมาส
ราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันในตลาดโลกแต่จะช้ากว่าราว 6 – 8 เดือน เป็นไปตามสูตรการคำนวณที่ซื้อจาก ปตท. ราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ 1Q61 เป็นต้นมาจากระดับ 237.2 บาท/ล้านBTU มาทำจุดสูงสุดที่ 284.5 บาท/ล้านBTU ใน 1Q62 หรือเพิ่มขึ้น 19.9% YoY แต่ทยอยปรับลงตั้งแต่ 2Q62 จนกระทั่งล่าสุดค่าเฉลี่ย 2 เดือนแรกของ 3Q62 อยู่ที่ราว 267 บาท/ล้านBTU (-3.0% QoQ) ต่ำที่สุดในรอบ 4 ไตรมาส และมีแนวโน้มลงต่อใน 4Q62 ซึ่งเป็นบวกต่อต้นทุนการผลิตขวดแก้วของ OSP เนื่องจากขวดแก้วที่บริษัทใช้มาจากการผลิตเองทั้งหมด และยังมีกำลังกาผลิดเหลือในการรับจ้างผลิต โดยก๊าซธรรมชาติมีสัดส่วนราว 6 – 8% ของต้นทุนขายของ OSP การปรับตัวลงจึงเป็นปัจจัยช่วยลดผลกระทบของอัตราภาษีน้ำตาลที่ปรับขึ้นรอบใหม่
ขึ้นภาษีน้ำตาลรอบใหม่เตรียมตัวไว้แล้ว
เครื่องดื่มบำรุงกำลังของ OSP มีการปรับสูตรใช้น้ำตาลน้อย จากที่อยู่ในช่วง 14 – 18% เป็นช่วง 10 – 14% ทำให้ได้ประโยชน์จากอัตราภาษีที่ลดลงจาก 1.00 บาท/ลิตรเป็น 0.50 บาท/ลิตร แต่ในวันที่ 1 ต.ค. อัตราภาษี จะเพิ่มขึ้นจาก 0.50 บาท/ลิตร มาที่เดิมที่ 1.00 บาท/ลิตร ทำให้ประโยชน์ที่เคยได้จากการปรับสูตรได้ไวกว่ากำหนดหมดไป ซึ่งบริษัทได้เตรียมรับมือไว้ก่อนหน้าแล้วด้วยโปรแกรม Fitness First และต่อเนื่องด้วย Fast Fit Firm ที่ยังเดินหน้ามุ่งลดต้นทุนการผลิต และ SG&A ต่อเนื่อง อาทิการผลิตที่ใช้เศษแก้วน้อยลง ล้างเศษแก้วที่สกปรกได้มากขึ้นทำให้ต้นทุนเศษแก้วต่ำลง และปีหน้าเมื่อโรงงานในเมียนมาร์เปิดทำการจะดัน GPM โดยรวมของ OSP เพิ่มขึ้นได้อย่างมีนัยยะ ประเด็นเหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนที่ทำให้ต้นทุนลดลงได้มากกว่าต้นทุนภาษีน้ำตาลที่เพิ่มขึ้น
3Q62 กลับมาโตทั้ง QoQ และ YoY, คลังเตรียมเสนอประโยชน์ภาษีเครืองดื่มมีนวัตกรรม
คาดกำไรปกติ 3Q62 ที่ระดับ 800 ลบ.+/- เติบโตราว 10% QoQ และ 30% YoY หลังส่วนแบ่งทางการตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังเพิ่มขึ้น C-Vitt มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 20% รายได้ OEM ขวดแก้วเติบโต YoY ตามจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มของใช้ส่วนบุคคลเติบโตต่อจากสินค้าใหม่ พร้อม GPM ที่ทรงตัวเหนือ 35% ได้ต่อเนื่อง ปัจจุบันกำลังการผลิต C-Vitt ที่เพิ่งขยายไปเริ่มผลิตไปได้ 2 เดือนใน 3Q62 ใช้กำลังการผลิตเต็มอีกแล้ว อยู่ระหว่างการลงทุนขยายกำลังการผลิตใหม่คาดแล้วเสร็จใน 1Q63 ยังไม่รวมในประมาณการ นอกจากนี้วานนี้ รมว. คลังระบุเตรียมเสนอกรมสรรพสามิตให้ประโยชน์ทางภาษีเครื่องดื่มที่มีนวัตกรรมไม่มีคาร์บอกเนต ซึ่ง SAPPE ได้ประโยชน์โดยตรง ส่วน OSP มีสินค้าในกลุ่มนี้อย่าง C-Vitt, Peptein และ V-plus ได้ประโยชน์ อยู่ระหว่างรอความชัดเจน
4Q62 ลุยเวียดนาม 2563 ลุยจีน ... มีโอกาสเข้า MSCI รอบหน้า ... คงคำแนะนำ ซื้อ
สำหรับ 4Q62 จะเป็นไตรมาสที่เริ่มมีผลของการขึ้นภาษีน้ำตาลเต็มไตรมาส นอกเหนือจากต้นทุนที่ส่วนอื่นที่ลดลงมาชดเชยได้ OSP ยังมีประเด็นบวกเฉพาะตัวจาก 1) เริ่มส่งออกเครื่องดื่มบำรุงกำลังไปเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดใหม่ และเรายังไม่รวมในประมาณการ และ 2) มีโอกาสสูงที่อาจถูกเพิ่มในการคำนวณดัชนี MSCI รอบใหม่ในเดือน พ.ย. นี้ นอกจากนี้ปี 2563 คาดเริ่มมีความคืบหน้าครั้งสำคัญในการขยายตลาดส่งออกไปจีน การปรับตัวลงวานนี้ไม่มีประเด็นทางปัจจัยพื้นฐาน จึงเป็นโอกาสสะสม คงราคาเป้าหมายณ สิ้นปี 2563 ที่ 45.50 บาท
FYE Dec (THBmn) 2017A 2018A 2019F 2020F
Revenue 25,878 24,297 26,090 28,650
EBITDA 4,834 4,877 5,613 6,540
Core Profit 2,501 2,429 3,060 3,672
Net Profit 2,834 3,005 3,312 4,022
Core EPS 0.83 0.81 1.02 1.22
Core EPS Growth (%) 20.5 (2.9) 26.0 20.0
DPS n.a. 0.69 0.77 0.94
Core P/E (x) 43.8 45.1 35.8 29.9
P/BV (x) 32.9 6.1 5.8 5.6
Dividend Yield (%) n.a. 1.9 2.1 2.6
Net gearing (%) 174.9 Cash Cash Cash
ROE (%) 71.8 16.6 17.9 20.9
Source : Company, Yuanta research
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities