รับส่วนลด 40%
🔥 กลยุทธ์การหุ้นคัดเลือกโดย AI ของเรา หุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ ทะยานขึ้น +7.1% ในเดือน พฤษภาคม เข้าเทรดขณะหุ้นกำลังมาแรงรับส่วนลด 40%

สัปดาห์นี้: ตลาดสั่นคลอนจากเหตุการณ์โจมตีโรงกลั่นน้ำมันซาอุฯ

เผยแพร่ 16/09/2562 10:25
AAPL
-

การที่โรงกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาราเบียถูกโจมตีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาทำให้ตลาดน้ำมันสัปดาห์นี้ต้องพลิกผันอีกครั้ง

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นทุกตัวของสหรัฐฯ ปิดตัวได้สูงขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สาม

ผลตอบแทนพันธบัตรก็ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องได้เป็นวันที่ 8 และกำลังจะไต่ขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์

ดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังเป็นใจให้ตลาดหุ้นในช่วงนี้ปรับตัวขึ้นได้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ดีขึ้น การผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของทั่วโลก การเจรจาทางการค้าที่ดูจะมีความคืบหน้า รวมทั้ง การโจมตีจากโดรนลึกลับ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาที่มุ่งเป้าไปที่บริษัทอรามโกของซาอุดิอาราเบียซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศจนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้จนไม่สามารถดำเนินการผลิตต่อได้

ตลาดในสัปดาห์นี้จะเป็นอย่างไรเมื่อตลาดหุ้นขึ้นมาทรงตัวอยู่ที่ระดับสูงสุดได้ก่อนที่จะมีการ ประชุมครั้งสำคัญของเฟด ในวันพุธนี้ที่หลายฝ่ายคาดว่าจะเกิดการ ตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ย อีกครั้ง แต่ที่แน่นอนก็คือตลาดควรต้องเตรียมพร้อมรับมือความผันผวนที่จะเกิดขึ้น ในขณะที่รัฐบาลหลายแห่งก็ต้องเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุดเพื่อเตรียมรับการยกระดับปฏิบัติการทางทหารในตะวันออกกลางที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน

ทิศทางใหม่ของตลาดในสัปดาห์นี้

นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวโทษอิหร่านว่าเป็นสาเหตุของการโจมตี “แหล่งผลิตน้ำมันของโลก” ในครั้งนี้ โดยคาดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมนซึ่งเป็นพันธมิตรของอิหร่าน การโจมตีในครั้งนี้ส่งผลกระทบกับปริมาณน้ำมันที่จะผลิตได้ของซาอุดิอาราเบียซึ่งถือว่าเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันจำนวน 5% ของโลกให้หายไปราวครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว

นายปอมเปโอกล่าวโทษอิหร่านว่าแสร้งทำเป็นต้องการ “สานสัมพันธไมตรีทางการทูต” ทั้งที่ในความเป็นจริงคือการ "ลดระดับความสัมพันธ์ลง” เขายังเขียนลงในทวีตไว้ด้วยว่า อิหร่านจะต้อง "รับผิดชอบกับการกระทำที่ป่าเถื่อนของตนเอง”

เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ทำให้ตลาดสัปดาห์นี้เริ่มปรับทิศทางใหม่อีกครั้ง แม้ว่าดัชนีทั้งสี่ตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นดัชนี S&P 500, NASDAQ และ Russell 2000 จะไต่ขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สามแล้วก็ตามและคาดว่าน่าจะมีความ ผันผวน อย่างหนักเกิดขึ้นในช่วงนี้ได้

ทางด้านตลาดน้ำมันก็น่าจะมีการเปิดการซื้อขายกันอย่างคึกคักในวันจันทร์นี้เช่นกัน และมีโอกาสที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นได้ถึง $10 ในขณะที่ตลาดที่มีความเสี่ยงอื่นๆ อาจปรับตัวลดลง

WTI Weekly

กราฟราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสรายสัปดาห์

ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นได้ถึง $10 จริง แต่ก็จะยังอยู่ต่ำกว่าราคาสูงสุดของเดือนเมษายนที่ระดับ $66.60 ซึ่งถือเป็นระดับที่ต้องไต่ขึ้นไปทดสอบก่อนที่จะสามารถยืนยันว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลางได้

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 ปรับตัตลดลง (-0.07%) นำโดยกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ ที่ปรับลงไปมากที่สุด (-1.2%) ส่วนหุ้นกลุ่ม วัสดุก่อสร้าง ทำผลงานได้ดีที่สุดของกลุ่มในแดนบวก (+1.13%)

JPM Daily

กราฟหุ้น JPM รายวัน

หุ้นกลุ่ม สถาบันการเงิน ก็ยังปรับตัวขึ้นได้เช่นกัน (+0.83%) ธนาคารที่มีสาขาอยู่ทั่วโลกอย่าง JPMorgan Chase (ปรับขึ้นได้ +1.97% เมื่อวันศุกร์ คิดเป็น +6.77% สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมา) แซงหน้าผลตอบแทนพันธบัตรรุ่นอายุ 10 ปี ไปทำลายสถิติสูงสุดของหุ้นกลุ่มธนาคารได้ นอกจากนั้นยังได้ทำรูปแบบ H&S ต่อเนื่องได้สมบูรณ์แล้ว ซึ่งก็หมายความว่าน่าจะมีการปรับตัวขึ้นได้อีก

หุ้นกลุ่ม เทคโนโลยี ยังปรับตัวลดลง (-0.72%) เนื่องจากได้รับแรงกดดันจาก Apple (NASDAQ:AAPL) (-1.94%) และ Broadcom (-3.41%) หลังจากที่ผู้ผลิตชิปอย่าง Broadcom แสดงให้เห็น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาจาก รายงานผลประกอบการ ประจำไตรมาสที่ 3 ซึ่งชี้ว่ายังมีความต้องการที่ยังต่ำอยู่

ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 0.96% เมื่อเทียบเป็นรายสัปดาห์ โดยมีหุ้น 8 กลุ่มจากทั้งหมด 11 กลุ่มที่อยู่ในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน (+3.83%) กลุ่มพลังงาน (+3.47%) และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง (+3.32%) ด้านผลตอบแทนพันธบัตรรุ่นอายุ 10 ปีก็ยังสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 โดยปิดตลาดประจำสัปดาห์ทำลายสถิติสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ หากพิจารณาข้อมูลทางเทคนิคพบว่าราคาเริ่มข้ามเส้นแนวโน้มขาลงที่ลากมาตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมขึ้นไปได้และกำลังจะวิ่งต่อไปยังเส้นแนวโน้มขาลงที่ลากมาตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย