What’s new?
- ราคาปรับตัวลงต่อเนื่อง 5 วันทำการ ไม่มีประเด็นลบใหม่ที่มีนัยสำคัญ
- เชื่อว่าเป็นการปรับพอร์ตของนักลงทุน เพราะที่ระดับราคาดังกล่าวมีกำไรไม่มาก และเหลือนักลงทุนที่มีกำไรจำกัด ราคาจึงมี Downside risk จำกัดแล้ว
- แนวโน้มกำไร 3Q62 เติบโต QoQ ทรงตัว YoY และจะเด่นมากใน 4Q62
Our view
- เราประเมินว่า ชิมช้อปใช้ มีนัยสำคัญต่อกำไรของ ZEN มากที่สุด
- ราคาที่ปรับตัวลงมาเป็นโอกาสทองของการลงทุน เพราะ ZEN อยู่ในธุรกิจที่ถือเป็น New S-Curve คือตลาด Food delivery ทำให้ ZEN ลงทุนต่อสาขาน้อยลงแต่ยอดขายเท่าเดิม
- PER2563 เหลือเพียง 19 เท่า ต่ำกว่า Peer ที่ 22 – 23 เท่า แต่โตถึง 62%
ZEN CORPORATION GROUP
ได้ร้านอาหาร Premium ในราคานาทีทอง
ไม่มีประเด็นลบใหม่ได้ราคาใกล้เคียง IPO
จากการสอบถามบริษัทไม่มีประเด็นใหม่ที่ตลาดยังไม่รับรู้คือบริษัทคาดการณ์ SSSG จะลดลงราว 7% แต่คาดว่าจะกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาสใน 4Q62 ราคาหุ้นที่ลดลง 5 วันติดต่อกัน คาดเป็นการปรับพอร์ตของนักลงทุนบางกลุ่ม ที่ราคาปิดวานนี้ที่ 15.20 บาท ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดก่อนหน้าที่ 17.70 บาท ถึง 14% ที่ระดับราคา 15.20 บาทนักลงทุนที่ขายแล้วมีกำไรต้องเป็นนักลงทุนที่ถือหุ้นลงทุนตั้งแต่ช่วงได้รับจัดสรรจากการ IPO ที่ 13.00 บาท เนืองจากราคากลับมาใกล้ระดับ IPO แล้ว และเท่ากับราคาปิดวันทำการซื้อขายวันแรก จึงเป็นระดับราคาที่น่าลงทุน เนื่องจากผลประกอบการผ่านช่วงแย่ที่สุดไปแล้ว แม้ SSSG ใน 3Q62 จะลดลงแต่เชื่อว่ากำไรจะยังเติบโต QoQ เพราะยอดขายสาขาใหม่และเขียงเป็นตัวเร่ง รวมถึงการให้บริการ Delivery ช่วยลดผลกระทบของช่วงฤดูฝน ขณะที่จะเริ่มรับรู้รายได้แรกเข้าจากการจำหน่ายแฟรนไชส์ซึ่งมีอัตรากำไรสูงในอัตราเร่งในช่วง 2H62 ช่วยหนุนกำไรมีโอกาสดีกว่าที่ตลาดกังวล
ZEN เป็นบริษัทจดทะเบียนที่ได้ประโยชน์ ชิมช้อปใช้สูงสุด
ด้วยมาตรการชิมช้อปใช้ มีข้อจำกัดที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้เพียง 20 สาขา ซึ่ง ZEN มีบริษัทย่อยที่มีร้านอาหารแบรนด์ต่างๆ 5 บริษัท หรือได้ราว 100 สาขา จากจำนวนสาขาทั้งหมดที่ 275 สาขา หรือราว 36% ของสาขาทั้งหมด จึงมีผลต่อผลประกอบการมากกว่า M, MINT, CPALL, CPN และ ROBINS ที่มีฐานสาขาและฐานกำไรสูงกว่าแต่อยู่ภายใต้เกณฑ์เดียวกัน และยังไม่รวมสาขาของแฟรนไชส์ที่เข้าร่วมได้เพิ่มเติมเพราะเข้าร่วมในนามบริษัทของแฟรนไชส์เองได้ แม้ไม่มีมาตรการดังกล่าวเราคาดว่า SSSG ของ ZEN จะกลับมาเติบโตได้ครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาสใน 4Q62 แต่เมื่อมีมาตรการเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยเร่งอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรของ ZEN ให้เด่นขึ้นใน 4Q62 และฐานที่ต่ำในปีนี้ เชื่อว่าปี 2563 จะเห็น SSSG เติบโตได้ทุกไตรมาส นอกจากนี้จะมีการเปิดตัวร้านอาหารแบรนด์ใหม่ในช่วง 1 – 2 เดือนนี้ ซึ่งเป็นอาหารแนวใหม่ในรสชาติที่คนไทยคุ้นเคยมาช่วยเร่งยอดขายช่วงปลายปี ส่วนแบรนด์เขียงเตรียมต้อนรับเทศกาลกินเจด้วยเมนูเจ พร้อมปรับเปลี่ยนเมนูได้หากลูกค้ากังวลการบริโภคเนื้อหมูหากเกิด ASF ในประเทศไทย และตอนนี้เขียงอยู่ระหว่างเร่งเปิดสาขา เพื่อลดการเสียโอกาสจากจำนวนคิวที่ยาว
ต้นทุนลดลงกว่านี้อีกในปีหน้า ... ราคานี้นาทีทอง … ซื้อ
ราคาหมู และปลาแซลม่อนที่ปรับตัวลงในช่วงนี้จะเป็นบวกต่อการเจรจาต่อรองราคาต้นทุนเนื้อสัตว์ที่จะใช้ในปี 2563 และการเกิด Economy of scale ของร้านเขียง จากปริมาณคำสั่งซื้อบรรจุภัณฑ์ ซอสปรุงรส และวัตถุดิบเครื่องเคียงต่างที่เพิ่มขึ้น ทำให้ได้ราคาที่ดีขึ้นมีผลเต็มปีในปี 2563 ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของ ZEN ควรดีกว่าปีนี้แต่เรายังคาดทรงตัว ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีเหตุผลทางปัจจัยพื้นฐาน ใกล้กับราคา IPO แล้ว และเป็นระดับราคาที่เหลือนักลงทุนที่มีกำไรจากการลงทุนจำกัด จึงเป็นโอกาสของการ ซื้อ ราคาปิดวานนี้คิดเป็น PER 2563 ต่ำเพียง 19.3 เท่า เทียบกับการเติบโตถึง 61.8% YoY และต่ำกว่า PER 2563 ของ M และ MINT ที่อยู่ที่ 22.4 เท่า (โต 8.1%) และ 22.8 เท่า (โต 8.8%) ตามลำดับ คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2563 อยู่ที่ 22.60 บาท
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities