-
การที่รัฐสภาสหราชอาณาจักรเลื่อนกำหนดการออกเสียงเกี่ยวกับข้อตกลง Brexit ออกไปย่อมทำให้ตลาดเกิดแรงกดดันขึ้นมาอีกครั้ง
-
การซื้อขายเงินปอนด์ในสัปดาห์นี้มีโอกาสที่จะร่วงลงต่อไป
สัปดาห์นี้ตลาดน่าจะยังมีความผันผวนอยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเงินสเตอร์ลิง นอกจากนี้ ทิศทางของตลาดทั้งหมดก็น่าจะยังเป็นขาลงอยู่เมื่อข้อเสนอที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรได้เสนอต่ออียูเกี่ยวกับข้อตกลงเรื่อง Brexit เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ก่อนต้องถูกเลื่อนการพิจารณาจากรัฐสภาอังกฤษออกไปจากกำหนดเดิมที่ควรต้องเป็นวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อให้มีเวลาในการพิจารณาเนื้อหาโดยละเอียดมากขึ้น
ดังนั้น นายจอห์นสันจึงต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายบังคับให้ต้องยื่นขอขยายเวลากับอียูจนได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยบอกว่าหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็จะไม่ทำ และหลังจากนี้นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปจะนำคำร้องยื่นขอขยายเวลาดังกล่าวไปปรึกษากับผู้นำสหภาพยุโรปต่อไป ในขณะเดียวกันนายจอห์นสันก็คงกำลังวางแผนเพื่อพยายามผลักดันให้ข้อเสนอดังกล่าวผ่านการพิจารณาให้ได้เช่นกัน
เมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สาม ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ธนาคารหลักๆ หลายแห่งรายงานผลประกอบการออกมาดีเกินเป้าที่นักลงทุนคาดเอาไว้ กลายเป็นหุ้นที่ทำผลงานได้ดีเป็นอันดับต้นๆ แซงหน้ากลุ่มอุตสาหกรรมและดัชนีตลาดหุ้นในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ไปได้ขาดลอย หุ้นสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ทำผลงานประจำสัปดาห์ได้ดีขึ้น แต่ปรับลดลงในวันศุกร์ โดยหุ้นของ Boeing ปรับลดลงไป -6.79% เนื่องจากยังมีข่าวร้ายเพิ่มเติมของบริษัทการบินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ รายนี้ออกมาอีก ทางด้าน Microsoft ก็ปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์เช่นกัน ทำให้ Apple กลับมาแซงขึ้นนำเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกได้อีกครั้งหนึ่ง
สัญญาณทางเทคนิคชี้ว่าราคาน่าจะขึ้นถึงจุดสูงสุดแล้ว ในขณะที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาถดถอยอีกครั้ง
ดัชนีดาวรายวัน
เมื่อวันศุกร์ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (-0.95%) ยังคงปรับตัวลดลง หลังจากที่ก่อนหน้านั้นในวันพฤหัสบดีมีราคาอยู่ที่ต่ำว่าสถิติที่เคยทำได้ในวันที่ 15 กรกฎาคมอยู่เพียง 1.25% เท่านั้น หุ้นของ Boeing คือหุ้นที่ส่งผลลบกับดัชนีสูงที่สุดในบรรดาหุ้น 30 ตัวในดัชนีนี้ การปรับลดลงของดัชนีประมาณสองในสามส่วนถือว่าเกิดจากหุ้นตัวนี้เพียงตัวเดียว บริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์สำหรับการบินรายนี้ซึ่งมีข่าวโด่งดังอยู่นานหลายเดือนกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งในวันศุกร์ที่ผ่านมาเมื่อถูกคณะทำงานกล่าวหาว่ามีความผิดโทษฐานที่ละเลยและไม่เปิดเผยข้อมูลกับพนักงานในปี 2016 ในช่วงการขอใบรับรองเครื่องยนต์เจ็ต 737 MAX
ในทางเทคนิคแล้ว การลดลงของราคาในวันศุกร์ที่ผ่านมาเพียงวันเดียวถือว่าเทียบเท่ากับมูลค่าที่เพิ่มขึ้นตลอดสี่วันที่ผ่านมาได้เลยทีเดียว เมื่อเทียบจากระดับสูงสุดที่เคยทำได้ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม ช่วงที่ดัชนีปรับลดลงไป 1.8% หลังจากที่เกือบจะทำลายสถิติสูงสุดได้ จนทำให้ตลอดทั้งสัปดาห์ดัชนีดาวปรับลดลงไป 0.2%
เราได้รายงานไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าข้อมูลปัจจัยพื้นฐานมีทิศทางที่ดีขึ้นในขณะที่ข้อมูลทางเทคนิคนั้นมีการส่งสัญญาณเตือนออกมาเป็นระยะๆ แม้ว่าผลประกอบการที่มีการประกาศออกมาล่าสุดของบริษัทหลายแห่งในสหรัฐฯ จะออกมาค่อนข้างดี แต่หลังจากที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ธนาคาร Morgan Stanley เป็นอีกธนาคารที่ ประกาศผลประกอบการ ออกมาให้เห็นว่าสภาพเศรษฐกิจยังชะลอตัวลงอยู่ เมื่อพิจารณาข้อมูลทางเทคนิคจะเห็นว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ เริ่มมีโอกาสมากขึ้นที่จะถึงจุดสูงสุดแล้ว
นอกจากนี้ ตัวเลขข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ก็เริ่มกลับตัวแย่ลงอีกครั้ง ตัวเลขยอดขายปลีก ยังคงต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก็ได้ปรับลดอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกที่คาดการณ์ลงจาก 3.5% เหลือ 3% นอกจากนี้ข้อมูลเศรษฐกิจจากฝั่งจีนที่เปิดเผยออกมาเมื่อวันศุกร์ก็แสดงให้เห็นว่า จีดีพี ในไตรมาสที่สามชะลอตัวลงเหลือ 6% เนื่องจากความต้องการภายในประเทศหดตัวลง แต่ความสามารถในการผลิตจากอุตสาหกรรมโรงงาน รวมทั้งยอดขายปลีกยังสูงขึ้น
กราฟราคาหุ้น MSFT รายวัน
เมื่อวันศุกร์ ดัชนี NASDAQ คอมโพสิต ปรับลดลงไป -0.83% โดยมี Microsoft (-1.63%) ปรับตัวลดลงมากที่สุดในกลุ่ม เมื่อพิจารณาข้อมูลทางเทคนิคจะพบว่า ราคาเริ่มเข้าใกล้ระดับ neckline ของรูปแบบ H&S top อันเกิดจากปริมาณการซื้อขายที่เริ่มลดลงแล้ว เมื่อดูเป็นรายสัปดาห์ ดัชนียังปรับขึ้นมาได้ 0.4%
กราฟผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ รุ่นอายุ 10 ปีแบบรายวัน
แม้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะมีความผันผวน แต่สุดท้ายก็กลับมายืนในจุดเดิม พันธบัตรรุ่นอายุ 10 ปี ของสหรัฐฯ ปิดตลาดที่จุดสูงสุดของรูปสามเหลี่ยมที่มีความสมมาตร ด้านล่างเส้นแนวโน้มขาลงที่ลากมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2018
กราฟดัชนี DXY
ด้าน ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ก็ยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ หลังจากที่ปรับลดลงไปอยู่ต่ำกว่าขอบล่างของกรอบราคาขาขึ้นที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน และไปปิดตลาดอยู่ต่ำกว่าเส้น 200 DMA ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา
กราฟราคา GBP/USD รายวัน
ช่วงเปิดตลาดสัปดาห์นี้เงินปอนด์ก็น่าจะยังร่วงลงต่อไป เว้นเสียแต่ว่าจะมีความคืบหน้าที่ชัดเจนใดๆ เกิดขึ้นเกี่ยวกับประเด็นในเรื่องข้อตกลง Brexit หากพิจารณาในทางเทคนิคจะพบว่า ค่าเงินปอนด์ขยับตัวผ่านทั้งเส้นแนวโน้มขาลงที่ลากมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม รวมทั้งผ่านเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมได้ทั้งคู่ ค่าเงินปอนด์จึงน่าจะลงไปทดสอบเส้นแนวโน้มขาลงที่ระดับ 1.2600 อีกครั้ง เว้นเสียแต่จะมีปาฏิหาริย์ในประเด็นข้อตกลง Brexit เกิดขึ้น
กราฟราคาน้ำมันรายวัน
น้ำมัน ปิดตลาดได้ต่ำลงกว่าเดิมเล็กน้อยหลังจากที่วันศุกร์ราคาค่อนข้างผันผวนแรง โดยไปปิดอยู่ที่ระดับขอบล่างของชายธงขาขึ้น และน่าจะยังมีทิศทางขาลงต่อไปหลังจากที่ราคามีการกลับตัวลงอย่างรวดเร็ว หากทำสำเร็จ ก็น่าจะทะลุแนวสามเหลี่ยมที่ใหญ่กว่าซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2018 ไปได้ และยังน่าจะทะลุจุดสูงสุดของกรอบราคาขาขึ้นที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมด้วยปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างหนาแน่น หลังจากที่ตัดผ่านเส้น 200 DMA ไปได้