* ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2019 จะประกาศให้ทราบในวันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม ก่อนเปิดตลาด
* รายได้ที่คาดการณ์: 873.63 ล้านเหรียญ
* กำไรต่อหุ้นที่คาดการณ์: $0.20
ในช่วงนี้นักลงทุนต่างก็พยายามมองหาหุ้นของบริษัทสื่อสังคมออนไลน์ที่น่าจะคุ้มค่ากับการลงทุนระยะยาวเนื่องจากปัจจุบันอุตสาหกรรมที่เริ่มถูกควบคุมด้วยกฎระเบียบต่างๆ มากขึ้นกลุ่มนี้เริ่มกลับมาทำผลงานได้ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์สำหรับการบันทึกข้อความส่วนตัวสั้นๆ อย่างบริษัท Twitter (NYSE:TWTR) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นในอุตสาหกรรมสื่อสังคมออนไลน์รายหนึ่งที่สามารถทำผลงานได้เกินเป้าและยังดำเนินธุรกิจในทิศทางการเติบโตของตนเองได้อย่างมั่นคงเสมอมา
ไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมานับเป็น ไตรมาส ที่เจ็ดแล้วที่ Twitter สามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณาในเรื่องจำนวนผู้ใช้ใหม่ บริษัทก็แสดงให้เห็นว่าสามารถเพิ่มจำนวนผู้ใช้ขึ้นได้อย่างสม่ำเสมอแม้ในภาวะที่สื่อสังคมออนไลน์กำลังต้องเผชิญแรงกดดันให้ต้องควบคุมและป้องกันเครือข่ายของตนให้ปลอดภัยจากการถูกควบคุมและนำข้อมูลไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง
Twitter มีผู้ใช้ใหม่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 2 อีก 5 ล้านคน จนทำให้มียอดผู้ใช้ทั้งหมดอยู่ที่ 139 ล้านคน ถือว่าเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อนับตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนของปี 2017 เป็นต้นมา นักลงทุนจึงเริ่มสบายใจที่จะถือหุ้นของ Twitter เอาไว้ เนื่องจากในปีนี้หุ้นของบริษัทมีการปรับตัวขึ้นได้มากกว่า 40% และปิดตลาดเมื่อวานนี้อยู่ที่ระดับ $40.09 ราคาหุ้นที่ปรับสูงขึ้นดังกล่าวคิดเป็นราวสองเท่าของผลตอบแทนจากที่ดัชนีเทคโนโลยีอย่าง NASDAQ ทำได้ในช่วงเวลาเดียวกันเลยทีเดียว
ปัจจัยที่ทำให้ Twitter พลิกฟื้นกลับขึ้นมาได้คือการที่บริษัทสามารถแสดงให้เห็นได้ว่า แม้จำนวนผู้ใช้แต่ละวันของ Twitter จะมีจำนวนไม่มาก เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีขนาดใหญ่กว่าอย่างเช่นบริษัท Facebook (NASDAQ:FB) แต่ก็ยังสามารถสร้างธุรกิจให้มีความมั่นคงจนทำให้นักลงทุนเชื่อถือในสถานการณ์เช่นนี้ได้
มาตรการที่บริษัทเตรียมดำเนินการกับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
จนถึงปัจจุบัน นายแจ็ค ดอร์ซีย์ ซีอีโอของบริษัทประสบความสำเร็จกับการพยายามกำจัดเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เนื้อหาที่มุ่งร้ายหรือล่วงละเมิดสิทธิ์บางส่วนออกจาก Twitter ได้พอสมควรแล้ว จากข้อมูลที่ Twitter รายงานล่าสุด ความพยายามดังกล่าวทำให้จำนวนการแจ้งเนื้อหาประเภทสแปมและพฤติกรรมที่ต้องสงสัยอื่นๆ ในช่วงไตรมาสที่ 2 ลดลงไป 18% และในช่วงเวลาเดียวกันนี้ บริษัทก็ได้ปรับเปลี่ยนกฎที่ใช้ในแพลตฟอร์มของตนเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น รวมทั้งได้ปรับปรุงเว็บไซต์ให้เป็นเวอร์ชันใหม่ด้วย
สำหรับกลยุทธ์ที่จะใช้เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ รวมไปถึงผู้ที่ต้องการลงโฆษณานั้น Twitter มุ่งเป้าหมายไปที่บริษัทผู้ผลิตคอนเทนต์วิดีโอรายใหญ่ที่มีชื่อเสียง นอกจากนั้นยังได้ปรับปรุงประสิทธิภาพของฟังก์ชันการทำงานทั้งด้านกล้องถ่ายรูปและบนหน้าเว็บไซต์ รวมทั้งยังมีฟีเจอร์การถ่ายรูปแบบใหม่ที่คล้ายกับ Snapchat ที่ผู้ใช้สามารถโพสต์วิดีโอหรือรูปภาพได้เพียงแค่ลากนิ้วเท่านั้น
Twitter เริ่มมีงบการเงินที่ดีขึ้นหลังจากที่ต้องประสบปัญหาจำนวนผู้ใช้งานที่ลดน้อยลงในช่วงหลายปีก่อน ตั้งแต่ช่วงที่เข้าสู่ตลาดแรกๆ ในปี 2013 แม้ว่าจะนำข้อมูลในปีนี้มาพิจารณาด้วยแล้ว หุ้นของบริษัทก็ยังถือว่าลดลงราว 20% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา
จากนี้เป็นต้นไป เราเชื่อว่านักลงทุนน่าจะสนใจเข้าถือหุ้นของ Twitter มากขึ้น ยอดขายในอนาคตของบริษัทน่าจะถูกกำหนดโดยอำนาจของทางการ และอีก 79% มาจากจำนวนผู้ใช้รายวันของ Twitter การเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะเกิดขึ้นในปี 2020 ของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นประเทศที่ทำรายได้ให้กับ Twitter มากที่สุดนั้นน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้มีการเข้าใช้งานของผู้ใช้สูงขึ้นได้ เพราะขนาดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็ยังเป็นแฟนตัวยงคนหนึ่งที่ชอบใช้ Twitter เป็นชีวิตจิตใจ
บทสรุป
แม้ว่าการฟื้นตัวของหุ้น Twitter ในปีนี้จะผ่านไปแล้ว แต่หุ้นของ Twitter เพิ่งจะเดินทางมาได้เพียงครึ่งทางเมื่อเทียบกับระดับสูงสุดที่เคยทำได้ที่ $74.73 ในเดือนธันวาคมปี 2013 ในการที่จะทำให้ราคาหุ้นยังพุ่งขึ้นต่อได้นั้น บริษัทจะต้องแสดงให้เห็นว่าสามารถสร้างรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีจำนวนผู้ใช้มากขึ้นอย่างสม่ำเสมอด้วย
เราเชื่อว่า Twitter ได้กลายมาเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มีความน่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการลงโฆษณามากขึ้น หลังจากการประกาศผลประกอบการของบริษัท หากราคามีการย่อตัวลงเมื่อใด ขอให้ถือเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อเก็บไว้