เมื่อบริษัทเฟสบุ๊ค (NASDAQ:FB) เจ้าของแพลตฟอร์มสื่อโซเชี่ยลรายใหญ่จะรายงานผลประกอบการณ์ในวันพรุ่งนี้ เฟสบุ๊คจะต้องแสดงให้เห็นถึงความประสบผลสำเร็จของบริษัทที่โตอย่างช้าๆ
นี่เป็นความท้าทายของเฟสบุ๊คที่จะแสดงให้เห็นว่าเฟสบุ๊คนั้นควรค่าแก่การลงทุนไหม และก็เป็นงานยากที่เฟสบุ๊คจะเพิ่มผู้ใช้ใหม่ในแอพพลิเคชั่น
ตัวเลขของผู้ใช้งานใหม่ของเฟสบุ๊คและเฟสบุ๊คเมสเซนเจอร์แอพพลิเคชั่นเพิ่มขึ้นถึง 1.6 พันล้านคนในไตรมาสที่ 2 คิดเป็น 8% จากช่วงเวลาเดิมในปีก่อนหน้า และนั่นเป็นการเติบโตที่ช้าที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ของบริษัท
ประเทศแถบยุโรป สหรัฐฯ และแคนาดา ตัวเลขของผู้ใช้งานไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยเป็นเวลาสองปีแล้ว ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ของเฟสบุ๊คประมาณสามในสี่ของรายได้ทั้งหมด
การชะลอตัวนี้ยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ แต่อาจจะกระทบในบางจุดหากประธานกรรมการบริหาร มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ไม่แสดงความคืบหน้าใด ๆ ในการสร้างรายได้จากสื่อโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เช่น Instagram และ WhatsApp โชคดีที่มีสัญญาณชัดเจนว่าแผนการของซักเคอร์เบิร์กในการกระจายฐานรายได้ของบริษัทนั้นอยู่ในระดับที่ดี
การคาดการณ์ถึงรายได้ที่สูงขึ้น
ในขณะที่การเติบโตของแอพหลักเฟสบุ๊คชะลอตัวลง บริษัทยังคงเพิ่มผู้ใช้ในแอพพลิเคชั่นอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว ในทุกๆวันมีผู้ใช้จำนวน 2.7 พันล้านคนอย่างน้อยมีแอพพลิเคชั่นที่เฟสบุ๊คเป็นเจ้าของ เช่น เฟสบุ๊ค Instagram, WhatsAp หรือ เฟสบุ๊คเมสเซนเจอร์ ซึ่งทำให้เป็นเครือข่ายโซเชี่ยลที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อได้รับแรงหนุนจากกลยุทธ์ของการเติบโตนี้ นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ถึงรายได้และกำไรของบริษัททั้งหมดดังนี้ เฟสบุ๊คน่าจะรายงานยอดขายสูงถึง 17.36 พันล้านเหรียญสหรัฐในวันพรุ่งนี้ สูงกว่าปีที่แล้ว 26% กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 8% เป็น $1.9 เทียบกับ $1.46 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ความท้าทายสำหรับเฟสบุ๊คนั้นค่อนข้างน่ากลัว เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่เผชิญกับการสวบสวนหลายประการ ที่มุ่งเน้นไปที่อำนาจผูกขาดของแพลตฟอร์ม การใช้งานในทางที่ผิดและแนวทางการใช้ข้อมูลของบริษัทกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ กำลังดำเนินการสอบสวนการต่อต้านการผูกขาดของเฟสบุ๊ค ในขณะที่คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางกำลังดำเนินการสอบสวนแยกต่างหากในเรื่องการต่อต้านการผูกขาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Letitia James อัยการสูงสุดนิวยอร์กประกาศว่า 45 รัฐรวมถึงกวมและเขตโคลัมเบียกำลังตรวจสอบว่าบริษัทเป็นอันตรายต่อการแข่งขันหรือไม่ความกลัวการกระทำด้านกฎระเบียบทำให้เฟสบุ๊คมีส่วนแบ่งอยู่ภายใต้แรงกดดันในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา เมื่อวันจันทร์ ตลาดหุ้นเฟสบุ๊คปิดการซื่อขายที่ $189.4 ลดลง 5% ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม แต่ในไตรมาสที่ผ่านมาเราคาดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงฤดูร้อนนี้
สรุป
ในอนาคตข้างหน้า เราไม่สามารถรับประกันได้ว่าแพลตฟอร์มโซเชี่ยลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะหายไป ในการประชุมคอนเฟอร์เร็นซ์ครั้งล่าสุดกับนักวิเคราะห์ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทได้เตือนว่าการชะลอตัวของการเติบโตในรายได้ของเฟสบุ๊คอาจจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ เนื่องจากข้อจำกัดที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการนำเอาข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้ในแง่ของการทำโฆษณานั้นมีจำกัด
แม้ว่าจะมีอุปสรรคเกิดขึ้น แต่ในความเป็นจริงต้องยอมรับว่าไม่มีแพลตฟอร์มใดที่ทรงพลังและเป็นสากลได้เท่าเฟสบุ๊ค ซึ่งเป็นสาเหตุที่เรายังคงชอบหุ้นเฟสบุ๊คถึงแม้จะมีเทรนขึ้นหรือลงก็ตามที