ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเกี่ยวกับการยุติสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนได้รับผลกระทบในช่วงสองวันที่ผ่านมา โดยการพาดหัวข่าวที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับความคืบหน้าในข้อตกลงชั่วคราว แม้ว่าประธานาธิบดีบะ โดนัลด์ ทรัมป์ จะใช้เคลื่อนไหวโดยใช้วิธี ไม้อ่อน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ยืนยันว่าจะไม่มีการลงนามหากข้อตกลงดูเหมือนจะมีการเอาเปรียบสหรัฐฯ
เมื่อสถานการณ์การลงนามยังไม่นิ่ง คาดว่าตลาดจะมีความผันผวนในสัปดาห์นี้
สินทรัพย์เสี่ยงเช่นหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์อาจร่วงลงได้ง่าย ในขณะที่สินทรัพย์ปลอดภัย เงินเยนญี่ปุ่น และทองคำ ราคาอาจจะดีดตึวขึ้นเมื่อมีการซื้อขายในวันจันทร์
ตราสารทุนปิดตลาดที่ระดับสูงขึ้นแต่ยังมีความไม่แน่นอนในช่วงวันหยุดสุปดาห์
ดัชนีของสหรัฐฯ ปิดตลาดที่ระดับขาขึ้น ซึ่วรวมไปถึง NASDAQ Russell 2000 และ ดาวโจนส์ ซึ่งS&P 500 ปิดตลาดด้วยขาขึ้นที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีแรงหนุนจากข้อสรุปการแก้ไขปัญหาในข้อตกลงทางการค้า พันธบัตรปรับตัวสูงขึ้นนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และสกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้นไปยังระดับราคาเดียวกันกับในช่วงกลางเดือนตุลาคม
อย่างไรก็ตามในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยคำกล่าวของทรัมป์ทำให้มีความไม่แน่นอนเกิดขึ้น ประธานาธิบดีได้กล่าวถึงห่วงโซ่อุปทานของการแข่งขันในเอเชียว่า “แตกง่ายเหมือนไข่” แม้ว่าเขาจะกล่าวกับสื่อว่าการเจรจาทางการค้าเป็นไปได้ด้วยดีก็ตาม
ทรัมป์ได้ปฏิสธรายงานของจีนเรื่องการยกเลิกการเก็บภาษี เขาย้ำว่าจะมีการพูดคุยถึงข้อตกลงที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์กับสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
แม้ว่านักลงทุนจะถือครองหุ้นที่มีราคาสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนออกมาทดสอบความเชื่อมั่นของพวกเขา ซึ่งบางทีก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของการเจรจาทางการค้าด้วยเช่นกัน
ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 0.26% ในวันศุกร์ทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยมี กลุ่มการดูแลรักษาสุขภาพ (+0.73%) และ กลุ่มเทคโนโลยี (+0.56%) เป็นกลุ่มที่ทำกำไร ในขณะที่ สาธารณูปโภค (-0.42%) และ กลุ่มพลังงาน (-0.41%) นั้นไม่ทำกำไร
สำหรับสัปดาห์นี้ ดัชนีมาตรฐานเพิ่มขึ้น 0.85% โดยที่กลุ่ม การเงิน (2.47%) ได้รับกำไรมากที่สุด ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน (+2.38%) กลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ (-3.7%) และกลุ่มสาธารณูปโภค (-3.65%). SPX เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 โดยได้รับแรงหนุนจากผลกำไรของบริษัทต่างๆที่ดีเกินคาดซึ่งส่งผลให้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเดือนที่ผ่านมาลดลง
เราได้สังเกตเกี่ยวกับรูปแบบการขยายตัวมากขึ้นของตลาดขาลงตั้งแต่เดือนมากราคม 2018 . แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์แรกที่ตลาดไต่ระดับทะลุกรอบขึ้นไป หากราคาไต่ระดับไปแตะเหนือ 3200 และยังอยู่ระดับนั้น เราต้องเปลี่ยนตลาดขาลงเป็นตลาดขาขึ้น
ในรอบ 10ปี ของพันธบัตรรัฐบาลที่ได้ไต่ระดับสู่ 1.945 ถือเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 31 เดือน กรกฎาคม โดยทางเทคนิคแล้ว อัตราปิดเหนือเส้นแนวโน้มขาลงตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2018 เป็นวันที่สอง ในขณะที่ได้ไต่ระดับขึ้นเป็นระยะเวลาสั้นๆ ในเดือนกันยายน
ตลาดขาขึ้นของพันธบัตรรัฐบาลเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมของตลาดขาลงในสินทรัพย์ปลอดภัยต่างๆ ซึ่งสำหรับหุ้นคือตลาดขาขึ้น ซึ่งเป็นการยืนยันถึงการวิเคราะห์ในระยะยาวสำหรับดัชนี S&P 500 ในแผนภูมิกราฟด้านบน
นอกจากพันธบัตรรัฐบาลแล้ว ค่าเงิน ดอลลาร์ ก็ไต่ระดับขึ้นตามเป็นวันที่ 4 ในสัปดาห์ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม จากจุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลงในระยะสั้นและกลับมามีแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวพร้อมกับช่องทางขาขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2018
ในทางกลับกันทองคำได้ขยายเส้นแนวโน้มขาลงโดยส่งสัญญาณว่าต่ำกว่าเมื่อวันศุกร์
น้ำมันปีนขึ้นไปสู่จุดสูงสุดนับตั้งแต่ 24 กันยายน พร้อมช่องทางที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม