ภาพรวมตลาดฟอเร็กซ์รายวัน: 12 กุมภาพันธ์ 2020
โดยคุณเคธี่ เหลียน กรรมการผู้จัดการวางกลยุทธ์การลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ของบริษัทจัดการสินทรัพย์บีเค
สกุลเงินหลักส่วนใหญ่ที่จับคู่เปรียบเทียบกับสกุลเงินดอลล่าร์ดีดกลับขึ้นมาอันเนื่องมาจากการปรับตัวขึ้นอย่างฉับพลันของพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ส่วนใหญ่สร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วตลาดหุ้นจะปรับตัวกลับลงไปหลังจากสร้างจุดสูงสุดใหม่แต่ไม่ใช่กับตลาดสกุลเงิน เป็นที่ทราบกันดีในหมู่นักลงทุนว่าสัปดาห์นี้การประชุมและแถลงการณ์จากประธานเฟดนายเจอโรม พาวเวลล์ถือเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดประจำสัปดาห์นี้ สำคัญขนาดที่ว่ามีผลต่อทิศทางการวิ่งของสกุลเงินดอลลาร์และดัชนีดาวโจนส์
เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในตอนนี้สำหรับพาวเวลล์แล้วเขามองว่าอยู่ในจุดที่ดี ตัวเลขยอดค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือนยังแข็งแกร่งอยู่ได้แม้ว่าทั้งโลกกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัวจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา อย่างไรก็ตามธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องนี้และกำลังจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดรวมถึงประเมินความเป็นไปได้ของความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ตลอด แต่ตอนนี้นโยบายทางการเงินสหรัฐฯ อยู่ในจุดที่เหมาะสมดีแล้ว
3 คำถามหลักที่นักลงทุนอยากได้คำตอบจากเฟดมากที่สุดในสัปดาห์นี้คือ
1. สถานการณ์ไวรัสโคโรนาจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อสหรัฐฯ บ้าง?
2. สัญญาการทำธุรกรรมซื้อคืน (repo) จะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่?
3. เฟดมีความคิดที่จะลดอัตราดอกเบี้ยอีกหรือไม่?
คำตอบข้อแรก:เฟดไม่ได้มองว่าไวรัสโคโรนาเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ ขนาดนั้น จากคำพูดของนายเจอโรม พาวเวลล์เขาบอกว่าเฟดยังไม่ได้พิจารณาว่าไวรัสโคโรนาเป็นภัยร้ายแรงเนื่องจากเห็นว่ามาตรการพยายามควบคุมโรคของจีนยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและจนถึงตอนนี้ข่าวผู้ป่วยติดเชื้อเข้ามาในดินแดนของสหรัฐฯ ก็มีน้อยมาก อย่างไรก็ตามเขาทราบดีว่าตัวเลขการผลิตของธุรกิจหลายๆ แห่งในสหรัฐฯ ลดลงเช่นเดียวกันกับเที่ยวบินที่เข้าไปยังประเทศจีนแต่ดูจากหุ้นและดัชนีในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ยังคงปรับตัวสูงขึ้นได้ดี
คำตอบข้อที่สอง:เฟดจะยังคงทำ repo ต่อไปจนกระทั่งถึงเดือนเมษายน การเงินในตลอดตอนนี้ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ดีแล้ว เงินที่อยู่ในระบบจะค่อยๆ ลดการพึ่งพาการทำ repo ลงไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามจากการทำ repo ครั้งล่าสุดเฟดยังคงเป็นห่วงในเรื่องของสภาพคล่องทางการเงิน นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าการทำ repo นี้จริงๆ แล้วคล้ายกับการทำ QE โดยไม่ได้กำหนดวันสิ้นสุดโครงการที่แน่ชัด นานวันไปตราสารทุนจะมีราคาเพิ่มสูงขึ้น Fed Fund Futures มีโอกาส 30% ที่จะต้องผ่อนมาตรการลงมาในปีนี้ เมื่อถามถึงการลดอัตราดอกเบี้ยซึ่งเป็นคำถามข้อที่สามเฟดเผยว่าปัจจัยทุกอย่างในสหรัฐฯ ยังคงเป็นบวกอยู่ ราคาในตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้น ดัชนีดอลล่าร์สหรัฐฯและกราฟ USD/JPY ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่ดี แม้ว่าในวันนี้เฟดจะต้องมีแถลงการณ์อีกรอบแต่จากคำตอบที่ได้เมื่อวานนี้เราน่าจะได้ข้อสรุปแล้วว่าเฟดไม่น่าจะลดอัตราดอกเบี้ยและไม่น่าจะมีอะไรออกมาให้ประหลาดใจไปมากกว่านี้แล้ว
เมื่อวานนี้ประธานธนาคารกลางแห่งอังกฤษ (BoE) มีแถลงการณ์เช่นเดียวกันกับเฟดสหรัฐฯ แต่ท่าทีของ BoE ดูระมัดระวังกว่าสหรัฐฯ มาก มาร์ก คาร์นีย์ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษเผยว่าผลกระทบของการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาตอนนี้จะรุนแรงยิ่งกว่าสมัยการแพร่ระบาดของโรค SAR อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นสถานการณ์หลัง Brexit ที่ยังไม่มีความชัดเจนส่งผลให้การกระตุ้นในภาคการผลิตเกิดขึ้นได้ยาก ที่สำคัญคือเขายังกล่าวถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางฯ อาจจำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกถ้าการเลือกตั้งที่ผ่านมายังไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้นอย่างที่คิด
สกุลเงินปอนด์ปรับตัวขึ้นได้อย่างน่าประหลาดใจแม้ว่าตัวเลข GDP ที่ประกาศออกมาอยู่ที่ 1.1% ไม่ได้ชะลอตัวลงไปอยู่ที่ 0.8% แต่ก็ไม่ได้สร้างความฮือฮาแก่นักลงทุน กราฟ GBPUSD สามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 100SMA ได้ ข้อมูลทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ของสหราชอาณาจักรแสดงให้เห็นแล้วว่าเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ซบเซาเพียงใด ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้แม้ว่าตัวเลขดุลบัญชีการค้าในภาคการส่งออกแร่โลหะจะดีขึ้นแต่การส่งออกรายการอื่นๆ กลับแย่ลง
เป็นไปตามคาดที่ธนาคารกลางแห่งนิวซีแลนด์ (RBNZ) ตัดสินใจไม่ลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม แม้ว่าธนาคารกลางแห่งออสเตรเลีย (RBA) จะค่อนข้างเป็นกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนาและได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่าเป็นไปได้ที่ GDP ของออสเตรเลียจะมีตัวเลขลดลง RBNZ กลับระวังกว่า RBA มาก การประชุมครั้งล่าสุดของ RBNZ ในเดือนพฤศจิกายนครั้งล่าสุดทำให้กราฟ NZD/USD ปรับตัวขึ้นมากกว่า 400 จุด เมื่อเดือนที่แล้วผู้ช่วยว่าการธนาคารกลางนาย Christian Hawkesby กล่าวว่าธนาคารกลางฯ ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ไวรัสโคโรนาและกำลังช่วยเหลือเศรษฐกิจของประเทศอย่างเต็มที่โดยพยายามจะไม่ใช้มาตรการลดอัตราดอกเบี้ย ตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาหลังจากการประชุมครั้งสุดไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่ ภาคการบริโภคในครัวเรือน กิจกรรมภาคการผลิตและความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจดีขึ้น (อ้างอิงจากข้อมูลในตารางด้านล่าง) อย่างไรก็ตามข้อมูลในตารางด้านล่างนี้เป็นตัวเลขที่มาก่อนไวรัสโคโรนาระบาด ภาพรวมทางเศรษฐกิจในตอนนี้อาจเปลี่ยนแปลงไปแล้วก็เป็นได้
