ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าผลกระทบจากไวรัสโคโรนาที่มีต่อเศรษฐกิจจีนและปริมาณความต้องการน้ำมันดิบที่ลดลงจะจบลงเมื่อไหร่ ยิ่งไปกว่านั้นประเทศจีนไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลตัวเลขและข้อมูลอย่างเป็นทางการส่วนมากถูกควบคุมโดยรัฐบาลซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีโอกาสที่ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกบิดเบือนไปจากความเป็นจริงด้วยเหตุผลทางการเมือง จากสาเหตุนี้จึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับสื่อภายนอกรวมถึงพวกเราที่จะสามารถคาดการณ์ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตและผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ตอนนี้เราได้เดินทางมาถึงช่วงกลางเดือนที่ 2 ของปี 2020 แล้วจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนาที่ส่งผลให้เศรษฐกิจหลายๆ ประเทศชะลอตัวลง นักวิเคราะห์จากสถาบันชั้นนำเริ่มออกรายงานผลคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้มาแล้วซึ่งรวมไปถึงปริมาณความต้องการน้ำมันดิบด้วย แม้จะยังมีหรือไม่มีแหล่งที่มาของข้อมูลชัดเจนนักแต่ข้อมูลเหล่านี้อย่างน้อยก็สามารถให้คำตอบกับนักลงทุนเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนาและความคิดนั้นก็แสดงออกมาในรูปแบบของแรงขับเคลื่อนที่อยู่ในตลาดลงทุน ณ ปัจจุบัน
ในบทความนี้เราจะพาไปดูกันว่าสถาบันและองค์กรชั้นนำเขามีความคิดอย่างไรกับราคาน้ำมันดิบกันบ้าง
BP ตัดสินใจลดภาพรวมตัวเลขปริมาณการใช้งานน้ำมันดิบ
บีพี (NYSE:BP) ถือเป็นสถาบันแรกๆ ที่ออกมาคาดการณ์ผลกระทบจากไวรัสโคโรนาที่กระทบต่อปริมาณความต้องการน้ำมันดิบของทั้งโลก เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ CFO ของสถาบันกล่าวว่า “ในปี 2020 โลกจะชะลอตัวจากไวรัสโรโนาทำให้อัตราการเติบโตของตัวเลขการใช้งานน้ำมันลดลงจาก 500,000 บาร์เรลต่อวันเหลือ 300,000 บาร์เรลต่อวัน”
การคาดการณ์จากบีพีเป็นสาเหตุหนึ่งราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
Rystad Energy มองว่าตลาดน้ำมันดิบจะยิ่งแย่ลง
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมปี 2019 สถาบันวิจัยอิสระสัญชาตินอร์เวย์นาม “Rystad Energy” เคยคาดการณ์ว่าปริมาณความต้องการน้ำมันดิบในปี 2020 จะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวันแต่ตอนนี้ Rystad Energy กลับลดตัวเลขการเติบโตลงเหลือ 820,000 บาร์เรลต่อวันเท่านั้นและในกรณีที่แย่ที่สุดความต้องการน้ำมันดิบอาจลดลงไปถึง 650,000 บาร์เรลต่อวัน การลดลงของตัวเลขปริมาณความต้องการน้ำมันดิบมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 450,000 - 280,000 บาร์เรลต่อวันซึ่งตัวเลขคาดการณ์นี้ของ Rystad Energy ใกล้เคียงกับรายงานของ BP
อ้างอิงข้อมูลจากหน่วยงานด้านพลังงานของสหรัฐอเมริกา (EIA) ที่พึ่งออกมาอัปเดตข้อมูลคาดการณ์การเติบโตของความต้องการน้ำมันดิบเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ว่า “ก่อนหน้านี้เรามองว่าไวรัสโคโรนาจะลดอัตราการเติบโตของความต้องการน้ำมันดิบลง 300,000 บาร์เรลในปี 2020 แต่ตอนนี้เรากลับคิดว่าปริมาณความต้องการน้ำมันดิบในโลกจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน” ซึ่งตัวเลขของ EIA นั้นออกมาสูงกว่า Rystad Energy และ BP
พฤติกรรมของราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตอบสนองต่อท่าทีของกลุ่มโอเปก
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมากลุ่มโอเปกได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนว่า “ผลกระทบจากไวรัสโคโรนานั้นน้อยกว่าที่พวกเราประเมินเอาไว้ โอเปกเชื่อว่าการเติบโตของความต้องการน้ำมันดิบจะลดลงเพียง 230,000 บาร์เรลต่อวันเท่านั้น”
ทันทีที่กลุ่มโอเปกออกมาแสดงความเชื่อมั่นราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดีดตัวขึ้นมาทันที่ 2% ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.5% ด้วยเช่นกัน
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) มีรายงานคาดการณ์ตัวเลขการเติบโตของน้ำมันดิบออกมาเช่นเดียวกันเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ แม้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ $57 แต่ระยะยาวยังไม่มีใครทราบผลกระทบที่โคโรนาจะทำกับความต้องการน้ำมันดิบในตลาดได้
โดยสรุปแล้ว…
จุดประสงค์ของบทความนี้เพียงต้องการให้ข้อมูลแก่นักลงทุนเท่านั้น เราจึงไม่อยากให้นักลงทุนที่ได้อ่านบทความนี้เอาข้อมูลไปใช้วิเคราะห์อย่างจริงจังเพราะนี่เป็นเพียงข้อมูลคาดการณ์ที่ไม่ได้อ้างอิงมาจากตัวเลขผลกระทบของไวรัสโคโรนาที่เกิดขึ้นจริง แม้แต่ผู้บริหารขององค์กรอนามัยโลก (WHO) ยังบอกด้วยตัวเองเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า “ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศจีนดูเหมือนว่าจะเริ่มนิ่งลงตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วแม้ว่าจะยังพบเจอผู้ติดเชื้อจากพื้นที่อื่นๆ อยู่ก็ตาม ดังนั้นผลของการแพร่ระบาดนี้ยังสามารถออกมาในทิศทางไหนก็ได้ทั้งนั้น”
แม้แต่องค์กรอนามัยโลกยังไม่กล้าที่จะฟันธงออกมาเป็นตัวเลขของสิ่งที่เกิดขึ้นในจีนจริงๆ แล้วองค์กรหรือสถาบันอื่นๆ ที่มีขนาดเล็กกว่านั้นอย่าง BP, Rystad, EIA, OPEC หรือ IEA จะมีข้อมูลที่ถูกต้อง 100% ได้อย่างไร
นักลงทุนควรเข้าใจว่าตัวเลขคาดการณ์ที่มีรายงานออกมาเรื่อยๆ ไม่ขาดสายจากสำนักงานต่างๆ จะสร้างผลกระทบกับตลาดน้ำมันดิบในระยะสั้นเท่านั้นซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพยากรณ์ผลกระทบระยะยาวจากสถานการณ์ในปัจจุบันให้ถูกต้องแม่นยำได้ ข้อมูลจากกลุ่มหรือสถาบันเหล่านี้เป็นเพียง “การคาดการณ์ด้วยข้อมูลที่ดีที่สุดแต่ไม่ใช่การทำนายอนาคตที่ถูกต้องที่สุด”