- เน็ตฟลิกซ์จะรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2020 ในวันอังคารที่ 21 เมษายนหลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐปิด
- ตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการ: $5,740 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ตัวเลขคาดการณ์การปันผลกำไรต่อหุ้น (EPS): $1.63
เน็ตฟลิกซ์ (NASDAQ:NFLX) ถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่ยังทำผลงานได้ดีและยังปันผลกำไรคืนสู่นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง หุ้นของบริษัทสามารถทรงตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นได้แม้ว่าทั้งตลาดยังคงผันผวนและได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 อย่างไรก็ตามขาขึ้นของเน็ตฟลิกซ์จะยังแข็งแกร่งอยู่หรือไม่ นักลงทุนกำลังจับตาดูและให้ความสนใจเป็นอย่างมากจากรายงานผลประกอบการในคืนนี้
แม้ว่าปีที่แล้วหุ้นเน็ตฟลิกซ์จะโดนดูถูกว่าเป็นหุ้นที่ทำผลงานได้แย่ที่สุดในกลุ่ม “5 เทพหุ้นเทคฯ (FAANG)” เมื่อเทียบกับเพื่อนๆ อย่างเช่นบริษัทแอปเปิล (NASDAQ:AAPL) หรือแอมะซอน (NASDAQ:AMZN) แต่ในปีนี้หุ้นยักษ์ใหญ่เหล่านั้น (ยกเว้นแอมะซอน) กลับทำผลงานได้ไม่ดีนักเพราะสายพานการผลิตได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในขณะที่เน็ตฟลิกซ์ได้รับประโยชน์เต็มๆ เพราะการอยู่บ้านคือโอกาสให้คนเข้าหาเน็ตฟลิกซ์ได้ง่ายที่สุด
ตลอดทั้งปี 2020 หุ้นเน็ตฟลิกซ์ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 36% ในขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลงประมาณ 12% แม้ว่าเมื่อวันศุกร์หุ้นเน็ตฟลิกซ์จะปรับตัวลงมา 3.7% แต่เมื่อคืนนี้ราคาก็สามารถขึ้นกลับไปได้อีกครั้ง 3.4% มีราคาปิดอยู่ที่ $437.49
สาเหตุที่หุ้นเน็ตฟลิกซ์วิ่งขึ้นมาได้ก็ค่อนข้างจะตรงไปตรงมา เน็ตฟลิกซ์เคยออกมาบอกแล้วว่าคู่แข่งคนสำคัญที่สุดของพวกเขาคือเวลาและจะมีช่วงเวลาไหนที่ดีไปมากกว่าตอนนี้อีกที่มนุษยชาติถูกบังคับให้อยู่บ้าน แม้จะต้องทำงานแต่ก็มีโอกาสที่มนุษย์จะเข้าถึงเน็ตฟลิกซ์ได้ง่ายขึ้น การตัดเวลาเวลาเดินออกไปเพราะไม่สามารถเดินทางไปไหนได้วิกฤตโควิด-19 ก็เพียงพอแล้วสำหรับการได้ใช้เวลาที่หายไปนั้นในการดูเน็ตฟลิกซ์
ยิ่งไปกว่านั้นเน็ตฟลิกซ์ยังได้รับประโยชน์จากการที่ผู้คนไม่สามารถออกไปรับชมภาพยนตร์ในโรงหนังซึ่งทำให้บริษัทใหญ่ๆ กำลังสูญเสียรายได้ ซ้ำร้ายกว่านั้นพวกเขากำลังอยู่ในช่วงเริ่มก้าวเข้าสู่วงการสตรีมมิ่งในขณะที่เน็ตฟลิกซ์มีความพร้อมมากกว่าและกลายเป็นว่าเน็ตฟลิกซ์ในตอนนี้ยังไม่มีคู่แข่งมาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดในตอนนี้เลย
เน็ตฟลิกซ์กับวิกฤตโควิด-19
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บางคนไม่เชื่อว่าลำพังแค่การอยู่บ้านของคนจะมีน้ำหนักเพียงพอต่อขาขึ้นของเน็ตฟลิกซ์ในระยะยาว นักวิเคราะห์จากสถาบันการลงทุน Needham แสดงความเห็นว่าอันที่จริงแล้วเน็ตฟลิกซ์ก็ได้รับผลกระทบอยู่จากการถ่ายทำภาพยนตร์ที่ต้องชะลอตัวหรืออาจจะต้องหยุดโปรเจกต์เอาไว้ก่อน
“เน็ตฟลิกซ์มีค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนที่ถูกกำหนดเอาไว้ตายตัวอยู่แล้วในขณะที่บริษัทต้องพยายามประคองขาขึ้นของตัวเองไปให้ได้โดยที่หนังเรื่องใหม่ที่กำลังสร้างอยู่อาจต้องเจออุปสรรคจากโควิด-19 ตอนนี้ขึ้นอยู่กับว่าหนังในคลังของเน็ตฟลิกซ์จะหมดลงเมื่อไหร่เท่านั้น” - กล่าวโดนลอร์รา มาร์ติน นักวิเคราะห์ของ Needham
ในความเห็นของเรา Investing,com กลับไม่เห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของ Needham ทั้งหมด จริงอยู่ที่เขาวิเคราะห์อาจส่งผลกระทบกับเน็ตฟลิกซ์ในระยะสั้นได้ แต่นักลงทุนในตลาดกลับไม่คิดเช่นนั้น พวกเขาเชื่อว่าเน็ตฟลิกซ์มีสายป่านในแง่ของภาพยนตร์ที่อยู่ระบบเยอะมากและนานพอที่คนจะสามารถอยู่ได้ด้วยการดูหนังเรื่องเก่าโดยที่ไม่รู้สึกว่าขาดหรือต้องการหนังใหม่แต่อย่างใด นอกจากนั้นอย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์อื่นๆ พึ่งก้าวเข้าสู่วงการสตรีมมิ่งเมื่อปลายปีที่แล้ว ยังไม่ทันจะได้เดินเกมรุกในปีนี้อย่างเต็มที่ก็เจอมาเจอวิกฤตโควิด-19 เสียก่อน
ยิ่งไปกว่านั้นเน็ตฟลิกซ์ในปัจจุบันเรียกว่าทั่วทั้งโลกส่วนใหญ่ต่างสามารถเข้าถึงสตรีมมิ่งของเน็ตฟลิกซ์ได้แล้วในขณะที่คู่แข่งคนสำคัญอื่นๆ อย่างDisney+ (NYSE:DIS) ของดิสนีย์หรือ Apple TV+ ยังอยู่ในขั้นที่พึ่งเริ่มแข่งธุรกิจสตรีมมิ่งกับเน็ตฟลิกซ์เฉพาะในสหรัฐอเมริกาอยู่เลย นี่ยังไม่ได้พูดถึง HBO Max ของ AT&T's (NYSE:T) ที่มีแผนจะเปิดตัวเดือนหน้าหรือ NBCUniversal ของ Comcast (NASDAQ:CMCSA) กำลังวางแผนจะเปิดตัว Peacock Service ในวันที่ 15 กรกฎาคม
แม้ว่าตัวเลขยอดผู้สมัครสมาชิกเฉพาะสหรัฐอเมริกาในรายงานผลประกอบการของเน็ตฟลิกซ์ในไตรมาสที่ 4 ปี 2019 เมื่อเดือนมกราคมจะออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์แต่ตัวเลขยอดผู้สมัครสมาชิกในต่างประเทศกลับเพิ่มขึ้นอย่างไม่อาจดูแคลนได้ ในรายงานผลประกอบการรอบล่าสุดพบว่าเน็ตฟลิกซ์มียอดจำนวนผู้สมัครสมาชิกต่างประเทศเพิ่มขึ้น 8.3 ล้านคน ดังนั้นในครั้งนี้นักวิเคราะห์จึงคาดการณ์ว่าเน็ตฟลิกซ์จะสามารถทำยอดตัวเลขได้เกิน 7 ล้านคน รวมแล้วทั้งสิ้นเน็ตฟลิกซ์มีผู้สมัครสมาชิกทั่วทั้งโลกอยู่ที่ 167 ล้านคน (รวม 60.4 ล้านคนของสหรัฐอเมริกาเข้าไปแล้ว)
โดยสรุปแล้ว..
ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ไม่มีความชัดเจน ธุรกิจเกือบทุกประเภทได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หลายๆ บริษัทตัดสินใจลดตัวเลขอัตราการเติบโตของบริษัทตัวเองและลดงบประมาณในบางส่วนลงแต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเน็ตฟลิกซ์ ยิ่งคนต้องอยู่บ้านนานเท่าไหร่ เน็ตฟลิกซ์ยิ่งมีโอกาสได้ยอดผู้สมัครสมาชิกเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
อัตราการเติบโตของยอดผู้สมัครสมาชิกในวันนี้จะเป็นการชี้วัดอัตราการเติบโตของบริษัทอีกด้วย ดังนั้นขาขึ้นของเน็ตฟลิกซ์จะยังคงเป็นขาขึ้นต่อไปได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับรายงานผลประกอบการในคืนนี้